เปิดปากพยานสำคัญรับถุงดำจากแอม ถูกขู่สยองเคยฆ่า30ศพ

ตะวัน : ใช่ครับ อยู่กินกันประมาณ 5 เดือน

แด้กับรุ้ง คบหากันมั้ย?

ตะวัน : ไม่รู้ครับ ไม่เคยเห็นครับ

เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?

ป๊อป : มีวันที่ 14 อยู่ดีๆ ทักมา ใช้ให้ไปดูกล้องให้เขาหน่อย บริเวณแถวริมน้ำที่พี่ก้อยเกิดเหตุครับ

คือท่าน้ำบ้านโป่ง เขาโทรศัพท์มาบอกเหรอ?

ป๊อป : เขาโทรมาแต่หนูไม่ยอมรับสาย เขาเลยพิมพ์แชตมาทิ้งไว้ แล้วโทรมาย้ำเหมือนรีบให้ไปดูให้หน่อย

เขาบอกไปเลย ด่วนๆ แถวทางลงนะ ดูแล้วถ่ายรูปมานะ ส่องถึงมั้ย กล้องอยู่ตรงไหน ไปด่วนๆ เลย แล้วก็โทรมา?

ป๊อป : ใช่ครับ

วันที่ 14 นะ?

ป๊อป : ใช่ เวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า

คุณก้อยเสียชีวิตวันที่ 14 แต่ตอนกลางวัน หลักฐานที่ยืนยันชัดเจนคือแอมโทรหาคุณ บอกให้ไปดูกล้อง คุณถามมั้ยทำไมต้องไปดู?

ป๊อป : ไม่ได้ถามค่ะ ตอนนั้นหนูเล่นสงกรานต์ ก็เพลียๆ ง่วงนอนด้วยค่ะ ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่เขาติดต่อหนูไม่ได้ หนูหลับ เขาเลยโทรหาตะวัน

เขาโทรว่าไง?

ตะวัน : บอกให้ปลุกป๊อปให้หน่อยครับ ก็ถามว่าให้ปลุกทำไม เขาบอกจะให้ป๊อปไปดูกล้องให้หน่อย จากนั้นผมก็เปิดลำโพงแล้วไปปลุกป๊อป เพราะเราอยู่ด้วยกัน พอตื่นมาป๊อปไม่ไป เขาก็ถามอีก

ป๊อป : เขาถามว่าไปหรือยัง หนูตื่นแล้วก็เลยตอบแบบมั่วๆ ว่าไปดูมาแล้ว

เขาบอกไปเลยด่วนๆ กล้องอยู่ตรงไหน 21.25 น. วันที่ 14 จริงๆ คุณก้อยเสียชีวิตตอนกลางวัน พอกลางคืนคิดว่าน่าจะมีอะไรบ่งบอกว่ามันไม่ชอบมาพากล เขาเลยติดต่อทางคุณให้ไปดูกล้องตอนสามทุ่มกว่า หลังจากนั้นไม่มีใครตอบ เขาโทรกลับมาเลย 22.33 น. และคนที่ส่งไปบอกว่ากล้องมีเยอะ แต่คุณไม่ได้ไป คุณโกหกแอมว่ากล้องมีเยอะ ใครเป็นคนพิมพ์?

ป๊อป : หนูพิมพ์เอง หนูเพิ่งตื่น โกหกว่าไปดูให้แล้ว

14 เม.ย. 23.34 น. โทรมาอีกแล้ว โทรมาทำไม?

ป๊อป : โทรมาจะให้ถ่ายรูปให้ดูหน่อยว่ามีจุดตรงไหนบ้าง

โทรมาอีกทีหลังบอกไปแล้วว่ากล้องมีเยอะ ก็เลยบอกว่าไปถ่ายรูปให้ดูหน่อย ว่าอยู่ตรงจุดไหนบ้าง เชื่อว่าคงประมวลว่าจะออกมาแบบไหน จากนั้น 02.39 น. เข้าสู่วันที่ 15 ก็ถามว่าไปดูหรือยัง คุณไม่ตอบเขาเลย เขากระวนกระวายใจ เพราะตอนนั้นเริ่มเป็นประเด็น ญาติคุณก้อยเริ่มสงสัยแล้ว วันนั้นก้อยเองหายปริศนา แล้วครอบครัวยังไม่รู้ เพียงแต่ตามหาว่าก้อยอยู่ไหน เข้าวันที่ 16 เม.ย. 13.40 เขาบอกติดต่อยากแท้ มีตังค์ติดตัวมั้ย หมายถึงอะไร?

ป๊อป : เหมือนจะให้นั่งรถบัสไปลงที่บขส.กาญจน์ วานให้ไปเอารถที่กาญจน์ หลังจากเรื่องกล้องจบแล้ว หนูไม่ได้ถ่ายให้เขาดู

เป็นรถอะไร?

ป๊อป : เห็นเขาบอกว่าขับวีออสได้มั้ย ให้นั่งรถมาลงบขส.กาญจน์ เดี๋ยวพี่ไปรับขับรถกลับมาเก็บโกดังนครปฐมให้พี่หน่อย เขาก็บอกว่ารถบัสหมดกี่โมง ทุ่มนึงหมดมั้ย เหมือนเขาจะให้หนูไปตอนทุ่มนึง หนูก็บอกโอเค เดี๋ยวทุ่มนึงพี่ก็ทักมาแล้วกัน พอทุ่มนึงเขาก็หายไป จน 20.50 น. โทรมาหาหนู แต่หนูไม่ได้รับ เขาเลยโทรหาตะวัน ตะวันเลยเปิดลำโพงให้ได้ยินกันหมดเลย เขาบอกให้ออกมาเอาของ เขาฝากของไว้หน่อยจะรีบไปธุระ ฝากถุงดำนะคะ เขาให้ขับรถออกมาเอาถุงดำที่เขา แล้วเขาจะออกไปธุระ ตอนแรกให้ไปเอาที่วงเวียนช้าง ที่บ้านโป่ง แต่มันไกล หนูเลยบอกว่าไม่ไป มันไกล เขาบอกว่าเดี๋ยวขี่เลยไปให้ทางเข้าบ้าน คือก่อนถึงบ้านเขาจอดอยู่ข้างทาง รอตรงข้างคลอง ตรงนั้นเป็นที่จอดรถค่ะ เขาก็จอดรอตรงมืดๆ ตอนนั้นประมาณ 20.50 น.

ป๊อป : พอหนูขี่เลยผ่านเขาก็เรียก หนูก็วนรถกลับมาจอดข้างๆ รถเขา เขาก็หยิบถุงดำไว้หน้าตะกร้ารถ แล้วบอกว่าพี่ฝากไว้ก่อน เดี๋ยวพี่ไปทำธุระ จะกลับมาเอา หนูก็ถามว่าฝากอะไรไว้ เขาบอกเป็นพวกของธรรมดา พวกทะเบียน คิดว่าเขาเปลี่ยนทะเบียน เลยเอาทะเบียนเก่ามาฝาก เลยไม่ได้สงสัย เลยเอาไปเก็บไว้ที่บ้าน

เขาให้ตังค์เรามั้ยในแต่ละครั้ง?

ป๊อป : หนูไม่ค่อยได้ ไม่ได้ค่อยขอ มีครั้งเดียวที่ทักไปยืมเขา น้ำมันหมด ก็เลยทักไปขอ แต่เขาก็ไม่ได้โอนมาเหมือนกัน

พอเขาฝากถุงดำ แล้วเขาให้ตังค์มั้ย?

ป๊อป : ไม่ได้ให้ เขาแค่บอกว่าพี่ฝากไว้ก่อน เดี๋ยวรีบไปทำธุระ แล้วจะกลับมาเอา วันนั้นวันที่ 16 เม.ย. สองทุ่มถึงสามทุ่มครับ

คุณเปิดถุงดำ?

ป๊อป : เปิดวันที่เห็นข่าว

เปิดคลิปรถคันเดียวกันใช่มั้ย?

ป๊อป : เป็นคันเดียวกันกับที่เขาเอาถุงดำมาให้หนู

จากนั้นแอมกับก้อยไปด้วยกัน ไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำบ้านโป่ง เป็นเวลาที่ต่อเนื่องกัน น่าจะช่วงเช้า จากนั้นฝั่งก้อยเองไปปล่อยปลา กลับขึ้นมาก็เสียชีวิตตรงกลางสะพาน ในวันเดียวกัน คุณส้ม พี่สาวคุณก้อย โทรหาแอมตอน 11 โมงกว่าๆ ถามว่าก้อยอยู่ด้วยมั้ย ก้อยหายไป ปรากฏว่าแอมบอกว่าไม่อยู่ แอมไม่ได้อยู่กับก้อย แอมอยู่อยุธยา จากนั้นก็ส่งแชตไปหาแอมอีกที วันที่ 14 วันเดียวกัน ตอนบ่ายสอง ถามว่ารู้มั้ยว่าก้อยเสียชีวิตแล้ว จากนั้นแอมตอบกลับมาว่าเฮ้ย ที่ไหน นี่คือการยืนยันว่าแอมรู้ว่าก้อยเสียชีวิตแล้วทางครอบครัวก้อยก็รู้และสงสัยคือวันที่ 14 วันเดียวกับที่ก้อยหายไป คืนเดียวกัน เขาโทรหาคุณให้ไปดูกล้องวันที่ 14 เหมือนกัน จากนั้นยังไงต่อ?

ป๊อป : ก็เอาถุงดำไปเก็บที่บ้านไม่ได้สนใจอะไร จนวันที่ 19 เห็นข่าวที่พี่แอมเขาสัมภาษณ์ ก็เลยสงสัยว่าจู่ๆ ทำไมให้ไปดูกล้อง เขาเอาอะไรมาฝากในถุงดำ ก็เลยแกะดูกับน้องเลยคืนนั้น

พอแกะดูมันเป็นอะไร?

ป๊อป : เป็นเอกสารอาแด้หมดเลย พวกใบขับขี่ ใบเติมน้ำมัน บัตรธนาคาร เป็นเอทีเอ็ม ไม่ได้นับแต่เยอะ และเอกสารการตายของอาแด้

มั่นใจได้ไงว่าเป็นของแด้?

ป๊อป : เป็นใบขับขี่อา เป็นรูปอา ส่วนเอทีเอ็มก็น่าจะเป็นของอาหมดเลย เพราะเป็นเอกสารการตายเหมือนที่รพ.ให้มา แล้วก็มีขวดยา ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร

ขวดนี้นะ คุณยืนยันว่าอยู่ในถุงดำที่แอมนำมาฝากคุณ?

ป๊อป : ใช่ เอามาฝากวันที่ 16 เม.ย.

คุณเจอขวดยาในถุง นี่คือภาพเต็มๆ ว่าในถุงมีอะไรบ้าง เป็นภาพที่ยืนยันได้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง ข้างบนมียาหยอดตา มีขวดยา อาจารย์ตฤณห์เคยเห็นไปแล้ว มันคืออะไร?

ตฤณห์ : โพแทสเซียมไซยาไนด์ครับ เป็นผลึกสีขาว

มีอย่างอื่นอีก?

ป๊อป : มีอันนึงที่โดนใช้ไป หนูก็เลยสงสัยว่ามีปรอทยาแบบนี้ เพื่อนหนูเลยค้นหาในอินเตอร์เน็ต เขาบอกว่าเป็นยาที่ฉีดเข้าเส้นสามารถตายได้เหมือนกัน อินเตอร์เน็ตบอก มันใช้ไปหลอดนึง หนูก็เลยสงสัย

มันเป็นเหมือนยาขยายหลอดลมหรือเปล่า?

ตฤณห์ : ใช่ครับ น่าจะเป็นของใช้ส่วนตัวคุณแด้หรือเปล่า

ที่น่าสังเกตอีกอัน นอกเหนือจากขวดยาขาวๆ ขวามือ อีกอันคือบัตรเอทีเอ็ม ถามว่าเพราะอะไร มีความเชื่อมโยงตรงที่ว่าจริงๆ แล้วนายแด้ครั้งนึงเคยเปิดบัญชีแล้วรับเงินโอนจากคนที่เขาแทงหวยด้วย คุณรู้มั้ย?

ป๊อป : เรื่องนี้ตอนแรกไม่ทราบครับ เพิ่งได้ยินข่าวมาเหมือนกัน

ป้าเต่ารับแทงหวยแล้วโอนเงินไปให้เค แต่ปรากฏว่าในนั้นที่ส่งไป บัญชีคนที่ชื่อเค คือนายแด้ สุทธิศักดิ์ พูนขวัญ อีกนัยคือเค ที่เปิดบัญชีแล้วให้โอนเงินไปบัญชีนี้ แต่เท่าที่คุยกับดล เพื่อนของแด้ คุณรู้จักมั้ย?

ป๊อป : หนูไม่รู้จักเพื่อนอาเยอะ อาเพื่อนเยอะมาก

ดลบอกว่าจริงๆ แล้วบัตรเอทีเอ็มอยู่กับแอมทั้งหมด เพราะฉะนั้นเงินมีสิทธิ์ที่เอ็มจะใช้เอทีเอ็ม ที่คุณบอกว่าแอมเอามาคืนให้คุณ น่าจะเอาเอทีเอ็มไปกดแล้วเอาเงินออกมา เพราะเงินไม่ได้อยู่ในบัญชีนั้นเลย ที่มีการโอนมาเป็นล้าน มันหายไปไหน แล้วเอทีเอ็มไปอยู่ในมือของแอม แล้วมาฝากคุณไว้?

ป๊อป : แต่หลังจากที่เอาถุงดำมาฝาก หลัง 3 ทุ่มแป๊บนึง พี่แอมเอารถไปมอบให้ตร.โรงพักบ้านโป่ง เหมือนเอาถุงดำมาทิ้งให้หนู แล้วเอารถไปมอบให้ตร.

โกศลวัฒน์ : ครับ ก็เป็นพยานแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้น วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายๆ ท่านบอกว่ามีผู้สูญเสียและมีใบมรณะใบเดียว ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้ใครที่คิดว่าเราเป็นผู้เสียหาย เป็นญาติผู้เสียชีวิต ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตร. หรือพนักงานสอบสวนให้ดีที่สุด ให้ทุกท่านไปเล่าความจริง รายละเอียดแต่ละขั้นตอน เมื่อสักครู่ที่คุณกรรชัยถามก็เป็นการไล่เรียงเวลา ลำดับ วันที่ แล้วจะเป็นพยานแวดล้อมต่างๆ เข้าไป เป็นประโยชน์กับการทำสำนวนการสอบสวนของตร. เพื่อจะได้ทำสำนวนให้อัยการตรวจสอบ และมีความเห็นสั่งคดีต่อไปครับ

ลักษณะแบบนี้ จากประสบการณ์ ความเชื่อมโยงถึงกันมั้ย น่าจะเป็นมั้ย?

โกศลวัฒน์ : ในอดีตเคยเกิดคดีขึ้นที่ไม่มีคนเห็น ไม่มีประจักษ์พยาน หรือพยานบุคคลเห็นตอนกระทำความผิด คือตอนที่ฆ่าเหยื่อ หรือตอนที่หั่นศพเหยื่อ เราเคยมีคดีทำนองนี้ แต่เราสามารถนำพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนเขารวบรวมจากพยานแวดล้อมต่างๆ ร้อยเรียงลำดับเหตุการณ์ พยานวัตถุ พยานจากกล้อง เอามาร้อยเรียงเหตุการณ์ เสนอความเห็น พนักงานอัยการก็สามารถสั่งฟ้องคดี จนนำไปสู่การลงโทษได้มาแล้ว แม้คดีที่ไม่มีประจักษ์พยาน แต่ถ้ามีพยานแวดล้อมที่น่าเชื่อถือ และสามารถเสริมน้ำหนักพยาน พยานหลักฐานก็พอฟ้องและพอที่จะดำเนินคดีได้

กรณีผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว เขาจะมีโอกาสได้ต่อสู้คดีมั้ย เพราะเขาไม่มีส่วนรู้เห็น ต้องยกประโยชน์ให้จำเลยหรือเปล่า?

โกศลวัฒน์ : ก็มีโอกาสครับ แต่ถ้ามีผู้เสียหายรายใดที่คิดว่าน่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นกับญาติของเรา คิดว่าท่านควรไปแจ้งความ วันก่อนพนักงานสอบสวนก็ออกมาบอกแล้วว่าถ้าใครคิดว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ให้แจ้ง บางรายบอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว และเชื่อว่าเข้าไปใกล้ชิดผู้ต้องสงสัยรายนี้ ขณะเดียวกันเขามีใบมรณบัตรใบเดียว คำตอบคือได้โปรดไปแจ้งความเถอะครับ พนักงานสอบสวนหรือตร.มีความเป็นมืออาชีพที่จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ และนำไปสู่การพิจารณาคดี รักษากฎหมายให้ยุติธรรมเพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพและคุ้มครองสังคมได้ ถ้าผิดก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่ผิดเขาก็จะพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ตามหลักฐานที่ปรากฏ ฉะนั้นเอารายละเอียดนี้ให้พนักงานสอบสวนให้มากที่สุด แล้วรายละเอียดก็เป็นอย่างที่คุณหนุ่ม กรรชัยพูด ถ้าร้อยเรียงเวลาก็จะเป็นเวลาที่ชัดเจน มันจะเสริมความน่าเชื่อถือที่เกิดขึ้น ทำไมต้องโทรมา ทำไมต้องทำอะไร ทำไมต้องสั่งการอะไร ขออะไรเพื่อเชื่อมโยงให้เป็นพยานแวดล้อมต่างๆ เข้าไปสู่สำนวนการสอบสวนครับ

เคยเจอคดีแบบนี้มั้ย ที่ยาวไปถึง 15 คน?

โกศลวัฒน์ : ก็เคยเกิดขึ้นแต่ไม่ได้บ่อย นานๆ จะมีครั้งนึงแต่ดูเถอะครับ ถึงแม้นานๆจะเกิดขึ้นครั้งนึง แต่กฎหมายมีประสิทธิภาพเสมอ เราจะจับคนร้ายมาลงโทษได้เสมอ เอาง่ายๆ อย่างปล้นร้านทอง เราเห็นสักกี่เรื่องที่คนร้ายไปปล้นร้านทองแล้วหนีรอดได้ ผมว่าน่าจะไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ แทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ที่จับได้

เอาง่ายๆ สุดท้ายคุณทำความผิดคุณถูกจับ?

โกศลวัฒน์ : ไม่ทำความผิดเด็ดขาดครับ ยังไงก็ไปไม่รอด เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐาน เทคโนโลยีสมัยนี้ แม้แต่ข้อมูลประวัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเขามีครบถ้วน แล้วเขาก็สามารถใช้เทคนิคสมัยใหม่รวบรวมพยานแวดล้อม ไปตรวจพิสูจน์ต่างๆ จนกระทั่งเชื่อหรือพยานหลักฐานพอฟ้องพอดำเนินคดี ตอนนี้มีเทคนิคสอบสวนที่พัฒนาขึ้นไปมากครับ

กลับมาที่ป๊อป หลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ถุงอยู่กับเรา พอเราเปิดแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

ป๊อป : ไม่แน่ใจวันที่เท่าไหร่ เขาโทรมา หนูเลยถามว่าทำไมพี่ให้หนูดูกล้อง เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ใช่มั้ย เขาก็บอกว่าถ้ารักพี่ อย่าไปพูดอะไร ใครมาถามอะไรก็ให้เงียบ บอกไม่รู้อย่างเดียว หลังจากนั้นหนูก็ไม่คุยเลย โทรมายาวมากก็ไม่รับสาย เขาเลยโทรหาตะวัน ให้ตะวันมาเอาถุงดำที่หนู เขาติดต่อหนูไม่ได้ก็ระแวง ก็โทรหาน้องให้มาเอาถุงดำที่หนู ตอนแรกหนูไม่ได้บอกน้องหรอกว่าหนูไว้ตรงไหน ทีนี้เห็นน้องบอกว่าไม่ได้เอาไปทำลาย ไม่ได้เอาไปไว้ที่พี่แอม จะเก็บไว้เอง ก็เลยบอกน้อง น้องก็เอาไปเก็บไว้ที่ตัวน้อง

เก็บไว้ที่ใคร?

ป๊อป : ตะวัน

ตอนนั้นเขาบอกมาเอาจะให้ตังค์ด้วย?

ป๊อป : ตอนแรกเขาบอกให้ไปฝัง ไปทำลายทิ้งไกลๆ คือบ้านจะมีบ่อน้ำข้างหลัง เขาบอกให้ไปฝังที่บ่อน้ำ มันจะไกลจากบ้านประมาณ 30-40 เมตรได้ เป็นบ่อน้ำเล็กๆ เป็นดงกล้วยหมดเลย เขาบอกให้ไปฝังแถวนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ไปฝัง

เราได้ถามมั้ย ทำไมต้องให้เอาไปฝัง?

ป๊อป : อันนี้ไม่ได้ถาม แต่ว่าเขาโทรหาน้อง

เขาโทรมาว่าไง?

ตะวัน : เขาโทรมาบอกว่าพี่จ้าง 500 เอาถุงดำไปฝังให้พี่ที แต่วันนั้นเราไม่ได้ทำ เราหลอกเขาว่าเราฝังไปแล้ว

ป๊อป : แกล้งใส่ถุงมือว่าเตรียมฝัง แต่ไม่ได้ฝัง

ตอนนั้นเรารู้เรื่องแล้ว?

ตะวัน : เริ่มรู้แล้วครับ มีข่าวพี่ก้อยออกมาแล้ว

ตะวัน : เขาก็เงียบไป วันที่ 22 เขาโทรมาอีกที

ป๊อป : วันเสาร์ที่เมฆกลับจากชลบุรี หนูไม่กล้าบอก กลัวมันโทรไปหาพี่แอม ก็เลยรอให้มันกลับมาถึงบ้านและบอกต่อหน้าว่าพี่แอมเอามาฝากไว้ เมฆก็เลยแกะดู และถ่ายให้พวกพี่วรรณ กับยายเพ็ญดู ว่าพี่แอมเอาพวกนี้มาฝากกับหนูไว้ พี่วรรณก็เลยติดต่อน้ารพีไป ตอนนั้นของยังอยู่กับพวกหนูช่วงเย็นๆ แอมเขาก็โทรมาหาตะวัน

ตะวัน : เขาบอกให้ไปขุดถุงดำเอามาให้เขาที ผมบอกว่าขี้เกียจไป เขาบอกจ้างหมื่นนึง เอาไปให้ที่นครปฐม

จากตอนแรกจ้างฝัง 500 ราคาแตกต่างกันมากผิดสังเกต ราคายิ่งดับเบิ้ลไปอีก เราทำยังไง?

ตะวัน : ผมบอกว่าผมขี้เกียจไป รถมันเก่าด้วย

ป๊อป : อีกอย่างพี่แอมนัดตะวันและไหมไปเจอที่ร้านอาหาร ให้เอาถุงดำไปให้ แล้วจะให้หมื่นนึง

ชวนไปกินข้าวแล้วทำไมไม่ไป ถ้าไปจะขิตหรือเปล่า ที่สำคัญเขาโทรมาหาเรา แล้วพูดว่า?

ป๊อป : ถ้ารักเขา ใครมาถามอะไรให้ตอบว่าไม่รู้อย่างเดียว

และเขาเคยพูดกับคุณว่า?

ไหม : เขาพูดว่าถ้ารักอาก็ต้องช่วยอา

ป๊อป : อย่าทำให้เขาเดือดร้อน เพราะถ้าเขาเดือดร้อน เขาออกมาเขาจะรวบหมดเลย

หลังจากแอมรู้ตัวก็พยายามติดต่อทางนี้ ขอให้ช่วยขุดถุงดำที่คิดว่าฝังไปแล้ว แต่พวกนี้ไม่ได้ฝัง เขาก็ฉลาดพอ คิดว่ามีเหตุแปลกๆ ก็เลยเก็บไว้ก่อน จากนั้นแอมโทรบอกตะวันและแฟน บอกว่าไปขุดมานะ เดี๋ยวให้หมื่นนึงแล้วจะพาไปกินข้าว ตกลงเราไปมั้ย?

ตะวัน : ไม่ได้ไป

ทำไม?

ตะวัน : มันไกลด้วย ไกลและรถเก่า เลยไม่อยากขับไป ก็บอกเขาว่ารถเก่าแล้ว ไม่อยากไปไกล เขาก็พยายามจะให้ไปให้ได้ ผมก็เลยตัดสายเขา เขาก็พยายามโทรมาเรื่อยๆ

เขาโทรหาป๊อปตอนไหนที่บอกว่าถ้ารักพี่ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น?

ป๊อป : หลังวันที่หนูแกะถุงดำ หนูสงสัยเพราะทรัพย์สินพี่ก้อยก็หายไป ตอนแรกหนูถามว่าพี่แอมจะเอาของพี่ก้อยมาไว้กับหนูหรือเปล่า หนูเลยแกะดู แต่ปรากฏว่าเป็นของอา ก็เลยเก็บไว้หมดเลย

ตอนแรกสงสัยว่าเอาของพี่ก้อยไป?

ป๊อป : ประมาณวันที่ 20 ได้ที่เขาโทรมา คุยกันแป๊บเดียวและวางไป หนูก็อ้างว่าไปทำธุระ หนูไม่อยากคุยกับเขาเลย ไม่อยากคุยแล้ว

กลัวใช่มั้ย?

ป๊อป : หนูก็คิดว่าอาแด้ไม่น่าตายเอง คิดสงสัยตั้งแต่แรก

ทำไม?

ป๊อป : อาเป็นคนแข็งแรงมาก จู่ๆ ไปล้มแล้วนอนตาย หนูเห็นรูปที่เขาถ่ายที่อุดรฯ เพราะมีคนส่งให้เมฆ ตอนหนูอยู่สุพรรณฯ อาก็ไม่เหมือนตายเอง มันน่าจะมีอะไร แต่หนูไม่กล้าพูด พอมีหลักฐาน มันมียา มีอะไร หนูก็เก็บไว้ ก็รอเมฆกลับมาเพื่อเอาไปเป็นหลักฐานให้ญาติผู้ใหญ่

เมฆคือใคร?

ป๊อป : เป็นพี่ตะวันอีกที เป็นหลานอาแด้

เขาบอกว่าถ้ารักพี่ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น ทำไมเขาถึงพูดคำนี้ เขาโทรมาตอนไหน?

ป๊อป : อันนี้หนูจำไม่ได้ว่าตอนไหน เขาโทรมาหนูก็รับสาย ว่าพี่ให้หนูไปดูกล้องอย่าบอกว่าเกี่ยวกับเรื่องที่พี่ก้อยตายนะ เขาบอกว่าถ้ารักพี่ใครมาถามอะไรให้บอกว่าไม่รู้อย่างเดียวเลย ถามว่ารู้จักแอมมั้ยก็ให้บอกว่าไม่รู้จัก

ไหมก็สำคัญกับเรื่องนี้ เขาโทรหาไหม เขาบอกว่าไง?

ไหม : หลังจากที่หนูไม่เอาของไปให้เขา เขาก็โทรมาเหมือนขู่ว่าพี่ฆ่ามา 30 ศพแล้ว จะมีศพที่ 31 32 พี่ก็ทำได้ เขาเห็นว่าหนูไม่ไปเอาของให้เขา เขาก็เลยพูดออกมา

ป๊อป : เหมือนจะรู้แล้วว่าไหมอยู่กับหนูแล้ว

เราเก็บหลักฐานไว้ เขาขู่ทันที ถ้าไม่เอามาให้ เขาฆ่าคนมา 30 ศพแล้วนะ จะฆ่าอีกไม่แปลกอะไรตอนนั้นเราทำยังไง?

ไหม : นิ่งเลย ไม่ได้ตอบอะไรเลย

ป๊อป : หนูก็ให้น้องอ้างกับพี่แอมว่าตร.มาบ้าน เพื่อไม่ให้เขาเข้ามา เพื่อถ่วงเวลาตอนกองปรบปรามเขาจะมา เพราะพี่วรรณโทรหาน้ารพีแล้ว น้ารพีบอกว่ากองปราบกำลังมา ประมาณหนึ่งทุ่ม ยายเพ็ญกับพี่วรรณมาเอาถุงดำไป

ยายเพ็ญคือยายอาแด้?

ป๊อป : ใช่ มาเอาถุงดำไปเก็บไว้บ้านพี่วรรณ บ้านอีกหลังนึง เขากลัวอยู่กับพวกหนู เขากลัวไม่ปลอดภัย เขาก็เอาไปเก็บไว้ก่อนแล้ววนมารับพวกหนูอีกที พอไปอยู่กับตร.แล้ว พวกหนูไม่มีใครรับสายพี่แอมอีกเลย แต่ก่อนหน้านั้นรับแป๊บๆ คุยถ่วงเวลา ไม่ให้เขาสงสัย

ตอนยายเพ็ญเอาถุงไป วันที่เท่าไหร่?

ป๊อป : 22 วันเสาร์ เวลาประมาณทุ่มสองทุ่ม

จากนั้นมันแปลก ผมเพิ่งเก็ตเดี๋ยวนี้เอง ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นที่บ้านยายเพ็ญ เชื่อว่าน่าจะเอาถุงดำจากเด็กๆ ไปแล้ว ปรากฏว่ายายเพ็ญเก็บถุงไว้ที่ไหน?

ป๊อป : ที่บ้านเขาเอง

ยายเพ็ญพูดกับผมเองว่ามีพฤติกรรมคนแปลกๆ ขับรถมาที่หน้าบ้านของเธอ แล้วลงมาไปด้อมๆ มองๆ ยายเพ็ญเลยกลัวว่าจะมีใครไปทำร้ายหรือเปล่า วันนั้นยายเพ็ญก็ไม่กล้าบอกเหมือนกันว่าแกเก็บถุงนี้ไว้หรือเปล่า มันมีโอกาสเป็นไปได้มั้ย?

ป๊อป : เขาเก็บไว้รอกองปราบปรามมา คือกองปราบปรามกำลังเดินทางมา ยายเพ็ญก็เลยเก็บไว้ พี่วรรณก็มารับพวกหนูไป ตร.ก็เลยพาพวกหนูไปกองปราบปรามคืนนั้นเลย แล้วเขาก็ไปสอบปากคำให้การกับตร.อีกวันนึง เย็นหนูกลับมาก่อนกับน้าตร. จะไปเอากล่องพัสดุที่ลืมไว้

ป๊อป : วันที่ 23 พวกหนูไปรวมกันอยู่ที่กองปราบปรามหมดเลย ยายเพ็ญด้วย พี่วรรณด้วย แล้วก็พยานทั้งหมดรวมทั้งเมฆด้วย ไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย

มันหมายความว่ายังไง ถ้าเกิดเราจะคิดกันแบบในหนัง เป็นไปได้มั้ย มีคนจะรู้ว่ายายเพ็ญนำเอาถุงดำมาไว้ที่นี่ แล้วมีคนจะมาเอาถุงดำนี้ไป แต่ตอนนั้นแอม ถูกตร.คุมตัวไว้แล้ว ชายคนนี้มาได้ยังไง หรือจะมีใครให้ชายคนนี้มา มีคนร่วมรู้เห็นหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ล่าสุดตร.เองมีการออกหมายจับคนสนิทคุณแอม คือสามีคุณแอมที่เป็นตร. 4 ข้อหา ฉะนั้นก็มีความแปลกที่เกิดขึ้น วันนี้สดๆ ร้อนๆ ออกหมายจับสามีแอม 4 ข้อหา ร่วมกันยักยอกทรัพย์ รับของโจร ร่วมกันฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร แสดงว่าตร.คงเชื่อว่าแฟนแอมที่เป็นตร.เหมือนกัน มีส่วนรู้เห็น แล้วคนเมื่อกี้ซึ่งฝั่งยายเพ็ญบอกว่าไม่เคยรู้จัก กลัวมาก ไม่กล้าออกไปไหนเลย วันนั้นยายเพ็ญไม่กล้าบอกว่ามีหลักฐานอยู่ที่บ้าน แต่ก็แปลกว่าอยู่ดีๆ จะมีใครไปโผล่ได้ไง หรือมีใครจ้างวานชายคนนั้นไป ก็ตอบไม่ได้ ล่าสุดพวกคุณคุยกับแอมตอนไหน?

ป๊อป : หลังจากวันที่ 22 ตร.เอาของกลางไปให้กองปราบปราม ก็ไม่ได้รับสายพี่แอมอีกเลย

มีคนบอกว่าคนที่ไปคือตร.ในพื้นที่?

ตฤณห์ : ไม่ได้ใส่เครื่องแบบมา ขาสั้นมาเลย

อาจจะไปพิทักษ์สันติราษฎร์ อันนี้ก็ตอบไม่ได้ ถ้าเป็นตร.ก็หมดข้อสงสัยตรงนี้ไป?

ป๊อป : แล้วก็วันที่ 23 ที่กลับจากกองปราบปราม ห้องโดนรื้อหมดเลย รื้อเละเลย

ไหม : สองห้องเลยค่ะ ห้องเราด้วย

ป๊อป : รื้อยันใต้เตียง เหมือนหาอะไรสักอย่าง

ถ่ายรูปไว้มั้ย?

ป๊อป : หนูไม่ได้ถ่าย แต่ตร.ถ่ายไว้หมดแล้ว

มีข่าวแล้วว่าตร.คนนั้นที่ไปบ้านยายเพ็ญเป็นตร. วันเดียวกัน มีคนบุกไปห้องป๊อปและไหม รื้อกระจัดกระจาย เหมือนหาอะไรสักอย่าง?

ป๊อป : หนูกลับไปพร้อมตร.กองปราบปราม หนูเข้าไปพร้อมเขาเลย เห็นหมดเลย ตู้โดนเปิด เตียงโดนรื้อ ผ้าห่ม ตะกร้าผ้ายังกระเด็น รื้อหมดเลย แล้วรอยรถใหม่ เหมือนรอยรถเก๋ง หนูกลับไปถึงบ้านประมาณ 5 โมงได้ โดนรื้อเละหมดเลย หน้าต่างก็ดึงผ้าออกมา ลูกกุญแจก็เหมือนโดนงัด ตอนนี้ล็อกไม่ได้แล้ว

สงสัยใครมั้ย?

ป๊อป : หนูก็สงสัยพี่แอม

แต่แอมอยู่ในเรือนจำแล้วนะ?

ป๊อป : วันที่ 23 วันที่หนูไปให้ปากคำครั้งแรก เขายังไม่อยู่ในเรือนจำ เขายังโทรหาพวกหนูอยู่เลย แต่พวกหนูไม่รับสาย

ขออภัย แอมถูกจับวันที่ 25 เม.ย. วันอังคาร ระหว่างที่ทำรายการตอนแรก แอมถูกจับพอดี ฉะนั้นวันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย. บ้านคุณเองถูกรื้อ และมีคนปริศนาไปโผล่บ้านยายเพ็ญ?

ป๊อป : แล้วก็มีเพื่อนอาแด้ พี่แอมโทรไปหาเขา เขาเหมือนโทรมาบอกว่าไม่ต้องอยู่บ้านนะ ไปอยู่ที่อื่น แต่จริงๆ พวกหนูอยู่กองปราบแล้ว เหมือนพี่แอมกำลังจะเข้าไปบ้านที่โดนรื้อ พี่แอมบอกว่าจะเข้าไปบ้านเมฆ เพราะเขาติดต่อพวกหนูไม่ได้เลย จากตอนแรกติดต่อน้องหนูได้ พอไปอยู่กับตร. ไม่ได้รับสาย ติดต่อใครไม่ได้ เขาน่าจะลนเลย เพราะโทรมาคนนึงไม่ต่ำกว่า 10 สาย ประมาณ 3-4 คน

ตฤณห์ : พฤติกรรมการขู่เพราะกลัว ขู่น้องไหม เพราะตัวเองกลัว ไม่เคยโดนจับได้ อาการคลื่นไส้ ชีพจร ความดันขึ้นก็คือเครียด ทำมาหลายครั้งจริงตอนกำลังทำ กำลังก่อเหตุไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร การฆ่าคนมันง่ายมากสำหรับเขา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โดนจับ เลินเล่อทั้งด้านพยานหลักฐาน และพวกวัตถุที่ใช้ คือไม่เคยโดนจับได้ ทุกอย่างไม่ได้อยู่กับตัวด้วย พะวงไปหมด ก็เลยเครียด พอเครียด ไม่ได้ดั่งใจก็เลยขู่จะฆ่าทางนี้เลย ตอนกำลังขู่หรืออารมณ์กำลังหลุด โมโหมากๆ ควบคุมไม่ได้ก็หลุดพูดออกมาว่าฆ่ามา 30 ศพแล้ว จะฆ่าเพิ่มอีกหนึ่งศพสองศพ จะเป็นอะไร ทำไมจะทำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาฆ่ามา 30 ศพจริงๆ นะ อาจเป็นคำขู่ที่ทำให้อีกฝ่ายกลัว แต่ที่เห็นแน่ๆ คือพฤติกรรมเขามีความเครียดมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ถูกจับ เป็นครั้งแรกที่หลักฐานชัดเจน อย่างกล้องวงจรปิดก็ชัดเจนมาก คนธรรมดาจะไปดูกล้องวงจรปิดสาธารณะทำไม แค่นี้เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าเขาเป็นผู้กระทำ

ยืนยันอย่างนั้นได้เลย?

ตฤณห์ : ผมพูดในแง่นักอาชญาวิทยา พยานหลักฐาน พฤติกรรมแสดงออก เอาพฤติกรรมทั่วไปที่คนตายต่อหน้าแล้วไม่เข้าไปช่วย นี่เป็นสิบครั้ง ทำไมคุณถึงโชคร้ายอยู่ในเหตุที่มีคนเสียชีวิตตลอดเลย มันเป็นไปได้ยากมาก เหมือนที่ผมเคยบอกฟ้าผ่าที่เดิมสองครั้ง เราต้องมาดูในแง่กระทำความผิด ทำผิดไปแล้วเขาไม่กลัว แต่นี่เป็นกระบวนการทางกฎหมาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้นพฤติกรรมเลียนแบบ หรือพฤติกรรมซ้ำๆ เดิมๆ เพราะเขาไม่เคยอยู่ในกระบวนการยุติธรรมเลย เลยย่ามใจ ทิ้งทุกอย่างไปหมดเลย การก่อคดีครั้งแรก ครั้งที่สอง อาจมีการทำความสะอาดรถ มีการเก็บฝังดิน อุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นอย่างดี แต่เมื่อทำหลายครั้งมันไม่มีใครสงสัยเขาเลย คราวนี้ในรถก็เจอไซยาไนด์ ที่บ้าน มันเต็มไปหมดเลยหลักฐาน

เราเช็กแล้ว พบว่าคุณแด้ที่เสียชีวิต เวลาลงเตะฟุตบอลจะมีอาการหอบหืดบ้างในบางครั้ง แต่คนสนิท เพื่อน ยืนยันว่าไม่เคยใช้ยา ventolin?

ตฤณห์ : เขาแนะนำไงครับ เขาชอบแนะนำว่ากินยานี้สิ บางทีให้น้ำมนต์ ให้อะไรก็ไม่รู้

ยา ventolin เป็นยาขยายหลอดลม เวลาหายใจไม่ออก ปกติใส่ไปกับเครื่องพ่น ถ้ามีใครสักคนเอาไซนาไนด์ใส่ลงไปด้วยแค่ปลายเล็บแล้วพ่น?

ตฤณห์ : ก็ได้รับไซยาไนด์โดยตรง ถ้าอันนี้เข้าไปไซยาไนด์ก็เข้าทั้งปากและจมูกเลย

แต่มีแม่บ้านคนนึงเห็นคุณแด้อาเจียน แล้วแม่บ้านบอกว่าเหมือนกินยาริดสีดวง แอมเอาให้กิน?

ตฤณห์ : วิธีที่เขาทำจะเป็นวิธีนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าที่คุณมีอยู่ รูปแบบการเข้าหา หวังดี เป็นมิตร เห็นอกเห็นใจ เข้าใจ มีการหว่านล้อนเก่ง คนหว่านล้อมไม่เก่ง ไม่สามารถเป็นอาชญากร หรือชวนไปเล่นพนัน หรือชวนไปอยู่วงแชร์ได้ ถ้าเขาไม่มีศิลปะในการพูด เขารู้จักพวกคุณแค่ 5-6 เดือน พวกคุณยังบอกเลยว่าเขาดูนิสัยดี มันเป็นความสามารถพิเศษ

ตฤณห์ : 50-50 เพราะถ้าเขาทำให้สองคนนี้เสียชีวิตด้วย มันจะชัดเจนเลยว่าเขาเป็นคนทำ อาจจะปล่อยเพราะยังมีประโยชน์กับเขาอยู่ แต่อีก 50 เปอร์เซ็นต์คือไม่รอด ไม่ต้องเสียหมื่นนึง ไม่ต้องเสีย 500

ปิดปากเลย?

ตฤณห์ : ใช่ ของอยู่ที่เขา มีสองคนนี้รู้เห็น เขาไม่ไว้ใจป๊อป เลยมาทางตะวันและไหม ตะวันไม่ค่อยพูด เขาน่าจะให้ไหมพูดแทน

ไหม : ใช่ค่ะ

ตฤณห์ : ป๊อปท่าทางหัวแข็ง ดื้อ เขาไม่ไว้ใจ เขาเลยบอกป๊อปให้เอามาไว้ที่ตะวัน เขาคาดการณ์ผิดไปหน่อยเพราะพวกเรารู้จักกันมาก่อน เราสนิทกันมาก่อน เขาคงคิดว่าได้เปรียบ แต่จริงๆ ไม่ใช่ เราสามคนตลบหลังเขาด้วยซ้ำ หลอกเขา ทำให้ได้หลักฐานสำคัญ

ตร.น่าจะออกหมายได้เพราะพวกนี้เลยนะ เขาจับวันที่ 25 แต่ 23 ตร.สอบพวกคุณ?

ป๊อป : ไปกองปราบปรามสองรอบ และสอบที่บ้านโป่งอีก จากนั้นก็หาพยานหลักฐานว่าไปเอาตรงไหน แถวบ้าน ตร.มาหาและพาไปเก็บข้อมูล จากกล้องวงจรปิด รถที่พี่แอมเอามาให้หนู ก็เก็บหลักฐานเรียบร้อย

คดีแบบนี้เห็นว่าอ.ปรเมศวร์บอกว่ามีมาตรา 247 วรรค 2 คนท้องละเว้นการประหาร?

โกศลวัฒน์ : กว่าจะไปถึงมาตรา 247 กฎหมายวิธีพิจารณาอาญา มันมี 267 มาตรา วันนี้เรากำลังอยู่ในช่วงต้น ช่วงที่มีเหตุเกิดขึ้น ใครที่เป็นผู้เสียหาย ญาติคนที่เสียชีวิตไป หน้าที่ตอนนี้ต้องทำคือไปแจ้งตร. ทราบข้อมูลก็ไปให้ปากคำ เจ้าหน้าที่ตร.จะได้รวบรวมปากคำทุกท่านพร้อมวัตถุพยานที่มีอยู่ในมือ ไปเป็นพยานหลักฐาน ร้อยเรียงให้มั่นใจว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง และพิจารณาจากสำนวนและพยานหลักฐานทั้งหมด กระบวนการยุติธรรมเป็นไปตามกฎหมาย เขาจะออกหมายเรียก ออกหมายจับ แล้วจะดำเนินการสอบสวน หลังสอบสวนจะมีความเห็นว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอย่างไรไปที่พนักงานอัยการ จึงจะไปสู่กระบวนการในศาล ต่อสู้สืบพยานโจทก์ พยานจำเลย ถ้าศาลตัดสินผิดจริง ลงโทษประหารชีวิต กฎหมายบอกเลยว่าต่อให้คู่ความไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นก็จะส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ กระบวนการก็กลับไปที่มาตรา 247 มันเป็นช่วงสุดท้ายของกฎหมายวิอาญา ช่วงสุดท้ายก่อนถึง ยังไงก็ต้องรวมศาลอุทธรณ์ไปด้วย คิดว่าต้องใช้เวลากี่ปี น่าจะ 2 ปีเป็นอย่างน้อย ฉะนั้น 2 ปี ไม่ต้องคำนึงว่าคลอดไปหรือยัง วันนั้นคลอดแล้วก็คงไม่ต้องกังวล มาตรา 247 เป็นกระบวนการแทบจะสุดท้าย มันไปอยู่ตรงท้ายแล้ว วันนี้สิ่งที่ต้องทำ ใครรู้เห็นอะไรก็ตาม ท่านเป็นพลเมืองดี ช่วยกันครับ แสวงหาหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อพิสูจน์ว่ามีการทำความผิดจริงหรือไม่ นำไปสู่การดำเนินคดี ให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ คุ้มครองพวกเราให้อยู่ร่วมกัน ส่วนกระบวนการในอนาคต หลายท่านกังวลว่าประหารมีจริงมั้ย คดีอื่นๆ ไม่ใช่คดีนี้นะ ต่อไปนี้เรามีพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือใช้ความรุนแรง ถ้ามีการทำผิดต่อเนื่อง กฎหมายมีแล้วครับ ฉะนั้นกฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่ออกมาดูแลสังคมต่อ เนื่องจากเราไม่มีการประหารชีวิตมานานแล้ว ต่อไปนี้กฎหมายนี้ถ้าถูกจำคุกอยู่อัยการฟ้อง ถ้าพิจารณาความผิดต่อเนื่อง ขอให้ศาลใช้มาตรการในการบำบัดรักษา จำได้มั้ยที่เคยมีกฎหมายฉีดไข่ให้ฝ่อ กฎหมายนี้มีบอกจะมีมาตรการทางการแพทย์ ถ้ากฎหมายพิจารณาแล้วจำเป็นต้องทำ ก็สามารถทำได้ด้วยกฎหมายนี้ จากนั้นมาตรการตรงนี้พ้นโทษแล้ว ยังสามารถเอาไปกักขังได้อีก 3 ปี ถ้ามีพฤติกรรมที่ไม่ดี จะมีกรรมการดูแล มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาล มีมาตรการอื่นคือสวมกำไลอีก 10 ปีหลังพ้นโทษ กฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่ออกมาช่วยดูแลสังคมต่อไป เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพในการดูแลคุ้มครองสังคม ให้สงบสุขและอยู่ร่วมกัน เชื่อว่ากฎหมายนี้จะทำให้สังคมสบายใจขึ้นได้

ตัวมาตรา 247 วรรค 2 กว่าจะไปถึงตรงนั้นต้องใช้เวลาอีกนาน ตอนนั้นเขาอาจคลอดแล้วก็ได้?

โกศลวัฒน์ : อย่างน้อยต้อง 2 ศาลครับ กฎหมายใช้คำว่าหญิงใดต้องโทษประหาร ถ้ามีครรภ์อยู่ แต่วันนั้นถ้าคลอดแล้ว ก็ไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรานี้

หมายความว่ากว่าคดีจะไปถึงสุดท้ายแอมเองน่าจะคลอดไปแล้ว?'

โกศลวัฒน์ : คลอดไปแล้วแน่นอนครับ

ตฤณห์ : ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนครับ

โกศลวัฒน์ : ถูกครับ แต่ถ้าโทษไม่ถึงประหาร ก็ยังมีกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ซึ่งจะดูแลเรื่องการบำบัดรักษา หรือมาตรการในการป้องกันว่าไม่ให้เกิดขึ้นอีก กฎหมายกำหนดแล้วครับ และอัยการจะมีหน้าที่ไปยื่นคำร้องแถลงศาลเพื่อให้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลสังคมให้ดีขึ้น กฎหมายนี้เพิ่งออกเมื่อปี 65 นี่เองครับ

กรณีที่มีการออกหมายจับ 14 คดี ถ้าตร.ฟ้องต่างเวลากันออกไป เพื่อดึงเวลาออกไปให้แอมคลอดก่อน ได้มั้ย?

โกศลวัฒน์ : ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่ตร.คงไม่ได้ดึงเวลา เขาคงพยายามสอบสวนให้ได้มากที่สุด แต่กระบวนการสอบสวนปกติต้องไปส่งให้อัยการ และไปสู่การยื่นฟ้อง กว่าจะนัดสืบพยาน นึกภาพออกมั้ย กระบวนการยุติธรรม คดีในศาลมีลำดับคิวกันอยู่