ผู้การแต้ม แฉ! มีคนดึงให้คดี บอส อยู่วิทยา หมดอายุความ

พล.ต.ต. วิชัย : "ผมคิดว่าผมก็รู้สึกเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ที่เขารู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลหรือไม่ แต่สิ่งที่พูดอย่าเอาความรู้สึกมาจับ ทุกอย่างต้องมีหลักการและเหตุผล ที่ผมรู้มาหลังเกิดเหตุ ตร.เขาแจ้งบอสทุกข้อหา มีการสอบสวน ใช้เวลาสอบสวน 6 เดือน แล้วส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการ ตร.มีความเห็นสั่งฟ้องนะ มีข้อหาเดียวที่ไม่ฟ้องเกี่ยวกับเมาแล้วขับ นอกนั้นอยู่ในมือพนักงานอัยการ แต่เข้าใจว่าช่วงพิจารณา ผู้ต้องหามีการร้องขอความเป็นธรรม ร้องไปหลายรอบ หลายที่ หลายครั้ง เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม พนักงานอัยการต้องสอบสวนเพิ่มเติม หรือหาพยานหลักฐานตามที่ผู้ร้องขอความเป็นธรรม เวลาตรงนี้อาจเนิ่นนาน แต่อยู่ในมือของใครนั้น เดี๋ยวเขาต้องมาชี้แจง เช่นสั่งให้ไปสอบ ทำไมสอบนานจนขาดอายุความ ต้องไปดูว่าบกพร่องจากตรงไหน"

พล.ต.ต. วิชัย : "สังคมเข้าใจอย่างนั้น ถ้าไม่ดึงหรือประวิง มันไม่ 8 ปีแน่ แล้วมันต้องใช้เวลาขนาดนั้นเลยเหรอ พนักงานอัยการต้องมาตอบ"

พล.ต.ต. วิชัย : "ผมพูดไม่ได้"

พล.ต.ต. วิชัย : "ผมเข้าใจว่าอาจไม่มีการสั่งให้สอบสวนใหม่ แต่อาจมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าคดีนี้มันบกพร่องตรงไหนอย่างไร เช่นเรื่องที่เขาสงสัยว่าทำไมความเร็วไม่ตรงกัน ทำไมพยานถึงมาเพิ่ม อย่างนี้ ผบ.ตร. อาจให้ไปสอบสวนมากกว่า มีคนเกี่ยวข้องทุจริตหรือไม่ เกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่กระบวนการคดีมันจบแล้ว"

รัชพล : "ถ้าอัยการสูงสุดชี้ขาดก็จบเท่านั้น ตอนนี้คดีจบแล้ว ส่วนที่เหลือที่จะทำได้ ถ้ามีจุดบกพร่องตรงไหนในคดี ต้องไปหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ถ้า ตร. หรืออัยการผิดต้องไปสอบสวน ตอนนี้คำสั่งมาคือตรวจสอบ มีคนดึงสำนวนก็ต้องเอามาลงโทษ หรืออัยการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบก็ต้องเอามาลงโทษ"

รัชพล : "ผมยกตัวอย่างเทียบคดีเสี่ยเบนซ์ ชนปุ๊บก็หนีไม่ได้ ตัวเองก็บาดเจ็บด้วย มันคาหนังคาเขา แต่คุณบอสชนแล้วหนีได้ ทำให้เกิดช่องที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคุณเมาขณะชนหรือเปล่า"

พล.ต.ต. วิชัย : "เท่าที่รู้ ไม่ได้ข้ามวัน เกิดเหตุตี 5 เก้าโมงเช้าก็ได้ตัวบอสมาสอบสวน ผมเข้าใจว่าส่งเลยไปตรวจความเมา คนบางทีว่าเป็นคนละวัน วันเดียวกันแต่อาจจะหลายชม. ตรวจแอลกอฮอล์อีกวันตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดก็ยังมีอยู่ เขาตรวจแล้วมีแอลกอฮอล์เกินกำหนด ไอ้อ้างเขาก็อ้างอยู่แล้ว เพราะเราได้ตัวหลังจากที่เขาหลบหนี เขาเลยมีข้ออ้างว่าที่เมา เมาหลังชนแล้ว ผมเครียด ตรงนี้ก็เป็นสิทธิของเขา คุณต้องหาพยานหลักฐานมาให้เห็นให้ได้ว่าเมาหลัง แต่ความคิดเห็นของผม มันเป็นบรรทัดฐานไม่ดี"

รัชพล : "มีคนออกมาแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่ที่เคยทำเรื่องนี้ออกมาบอกว่าผมทำเรื่องนี้เอง ขับรถเร็วแน่นอน มีคนเขาออกมายืนยันอีกเยอะ แล้วทำไมสั่งไม่ฟ้อง ก็เป็นประเด็นที่น่าสงสัยอยู่"

พล.ต.ต. วิชัย : "นี่แหละที่ผมพูดว่า การสอบสวนถูกต้องหรือไม่ อย่างเช่น ทำไมตอนแรกไม่มีพยานสองคนนี้ แล้วต่อมาทำไมมีพยานสองคนนี้ ต้องทำให้กระจ่าง เพราะตร. ทำตั้งแต่แรกมีหลักฐานครบไปแล้วว่าไม่มีพยานตรงนี้ พอมีการร้องขอความเป็นธรรม พยานสองคนนี้มาได้ยังไง ใครพามาให้อัยการ อัยการก็ส่งให้ ตร. สอบ ตรงนี้อัยการต้องมาตอบ เพราะอัยการได้ตัวมาจากคำร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหา อัยการก็ส่งไปให้ ตร. โดยกำหนดประเด็นว่า ตร. ต้องสอบหนึ่งสองสาม ต้องดูว่าพยานมาได้ยังไง น่าเชื่อถือหรือไม่ เขาบอกพยานขับรถตามมาเห็น แสดงว่าในกล้องก็ต้องมีรถสองคันนี้ และวันเวลาบ้านเขาอยู่ไหน"

พล.ต.ต. วิชัย : "ผมคิดว่าอย่าเพิ่งไปตามโซเชียล มันหายไปไมได้หรอกถ้ากล้องวงจรปิดมันมี เพราะ ตร.ต้องเก็บหลักฐาน เพียงแต่เขาอาจไม่เปิดเผย เปิดเผยต่อสาธารณะไม่ได้ ตอนนี้ที่เขาบอกว่าน่าจะขับ 80 เขาดูจากกล้องวงจรปิดมาคำนวณ สองพยานที่ขับรถตามมาว่าเขาขับมา 80 เหมือนกัน แต่ตอนนั้นอาจไม่มีพยานตรงนี้ ถ้าอัยการเชื่อสองคนหลังต้องมีเหตุผลประกอบ ตรงนี้อัยการต้องมาชี้แจง เพราะ ตร. เขาสั่งฟ้องไปตั้งแต่แรกแล้ว"

รัชพล : "พยานกลุ่มที่สองน่าสงสัย ทำไมเขาเพิ่งโผล่มา ต้องรออัยการชี้แจงว่าทำไมถึงเชื่อตรงนี้"

พล.ต.ต. วิชัย : "หมดก็คือหมด ต้องยอมรับกติกา แต่ไปดูว่าสาเหตุหมดเพราะอย่างไร ใครทำให้หมด ใครทำให้ล่าช้า เป็นความรับผิดชอบของใคร แต่ถ้าหมดตามกติกาเราก็ต้องยอมรับกติกา เพราะอายุความมันน้อย"

พล.ต.ต. วิชัย : "คดีนี้เดิมมีพ่อบ้านออกมารับแทน และมีตร. พามา ซึ่งท่านคำรณวิทย์ สั่งไล่ตร. คนนั้นออกไปแล้ว ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา สองพ่อบ้านที่มารับแทนก็ต้องมีความผิดฐานให้ข้อมูลเท็จ แต่โทษอาจไม่เยอะ หลังจากที่เขาได้ตัวผู้ต้องหาจริงแล้ว คดีพ่อบ้านก็เงียบไป เพราะไม่มีใครสนใจ แต่ก็ถูกดำเนินคดีไป เพราะตัวหลักจริง ๆ คือบอสที่เป็นผู้ก่อเหตุ"

พล.ต.ต. วิชัย : "เวลาตร. ส่งไปตรวจ สงสัยว่าจะเมา เขาจะส่งไปหาเรื่องความเมา แต่การตรวจอาจมีผลเรื่องยาเสพติดมาด้วยในเลือด ทางรามาฯ ก็ต้องบอกว่าหลังตรวจเลือดพบอะไรบ้าง พบแอลกอฮอล์ในเลือด หรือสารที่เป็นโคเคนอะไรก็แล้วแต่ แต่เชื่อว่ารามาฯ จะไม่บอกว่าสารตัวนี้เป็นโคเคน ตร.เขาเลยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพราะไม่เกี่ยวกับความเมา แต่ถ้าตร. จะดำเนินคดี ถ้ามีหลักฐานแน่ว่าเสพโคเคนก็ถือว่าเป็นข้อหาเสพยาเสพติดได้ แต่คดีนี้เป็นเรื่องความประมาท อะไรทำให้เกิดประมาท เช่นเมาอะไรต่าง ๆ ก็คนละประเด็น"

พล.ต.ต. วิชัย : "ผมว่าเราพูดเพราะไม่รู้กระบวนการ พอมีหมายจับ อัยการต้องประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศ ตร.ก็ไปประสานเพื่อจับกุม หลักการมันง่าย แต่วิธีการปฏิบัติ ต้องไปดูกฎหมายทางโน้นด้วยนะ บางทีเราให้ไป ทางโน้นบอกว่าคุณต้องระบุให้แน่นอนว่าพักที่นี่ อยู่ที่นี่ ไม่ใช่ตร. เรา พอบอกปุ๊บขับรถไปสืบ บางประเทศคุณต้องไปยืนยันเลยนะว่าอยู่บ้านหลังนี้เขาถึงไปจับให้ หลักการมันง่าย แต่วิธีการต้องเข้าใจ ต้องไปดูกฎหมายประเทศเขาด้วย เวลาเราขอประสานไปแล้ว เขาให้ความร่วมมือหรือไม่ แล้วจะมาโทษว่าหน่วยงานเราไม่ทำได้ยังไง"

พล.ต.ต. วิชัย : "จับได้น้อยรายมาก ถึงบอกว่าบางทีต้องดูกฎหมายประเทศนั้นด้วย เหมือนคดีนึงตร. ไปนั่งคุยกับอดีตนายกฯ คนบอกทำไมไม่จับ เขาก็อ้างได้ว่าอยู่นอกประเทศ จะไปจับได้ยังไง มันเป็นวิธีการ"

รัชพล : "ตอนนี้คดีจบแล้ว สิ่งที่จะทำได้คือถ้ามีจุดบกพร่องไปดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เช่นถ้ามีการดึงสำนวนก็ไปดำเนินคดีตรงนั้น มีอีกวิธีคือไปฟ้องศาลเองซึ่งมันยาก เพราะสำนวนอยู่ที่ตร. หมด มันก็ยาก คุณจะไปรวบรวมหลักฐานยังไงมันก็ยาก"

พล.ต.ต. วิชัย : "ตร. อัยการต้องออกมาชี้แจง อย่างเช่นมีพยานสองคน ต้องชี้แจงให้ได้ว่ามาได้อย่างไรทำไมตอนแรกไม่มี หรือทำไมอัยการไม่เชื่อครั้งแรก ดันมาเชื่อครั้งที่สอง อัยการต้องเอาเหตุผลมาชี้แจง เดิมตร. สั่งฟ้อง ทำไมต่อไปถึงไม่แย้ง ต้องชี้แจงว่าไม่แย้งเพราะอะไร"

คลิป

vvvvvvv

vvvvv

vvv

v