ครอบครัวคาใจ ‘น้องฟลุ๊ค’ ถูกตร.ไล่ล่า สุดท้ายรถล้มดับ

ผู้ปกครองโฮจุนมาหาแม่บอกว่าเกิดอุบัติเหตุ เขาบอกว่ายังไง?
แม่ : เขาบอกว่าให้ไปตามดูที่รพ. ราชวิถี คุณพ่อเลยไปตามกับพี่สาวฟลุ๊ค แค่อุบัติเหตุก็ใจเสียแล้ว สั่นไปหมด เขาเลยไปตามกัน 2 คน เขาไปตามที่รพ. บอกว่ามีอุบัติเหตุ เขาอยากรู้ว่าคนเจ็บอายุประมาณนี้ แต่รพ.บอกไม่มี

ตอนแรกคุณแม่ไมรู้ลูกเสียชีวิต?
แม่ : ไม่ทราบค่ะ ไปตามหาคนเจ็บ คิดว่ารถล้ม ไม่ได้คิดว่าจะเสียชีวิต

พ่อตามยังไง?
พ่อ : พอทราบข่าว ก็เอามอเตอร์ไซค์ไปกับลูกสาวไปตามหา ไปรพ.ราชวิถี เขาบอกไม่มีเคสนี้ ผมไปตร.ทุกป้อมว่าเวลานี้มีเหตุมั้ย เขาบอกไม่มี ก็กลับไปสน.พญาไท ตร.บอกว่าไม่มี แต่เขามีเบอร์ปอเต๊กตึ๊งหรือว่ามูลนิธิให้เราไปสอบถามดู ผมก็โทรไปหา เขาบอกลักษณะผู้เสียชีวิต

พ่อถามอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต เขาตอบกลับมา ตอนนั้นฟังแล้วรู้มั้ยว่าเป็นฟลุ๊ค?
พ่อ : ตอนนั้นยังไม่ชัวร์ เขาบอกถ้าไม่ชัวร์ให้ไปยืนยันที่รามาฯ ที่ห้องเก็บศพ ผมก็ไปกับพี่สาว ไปปุ๊บเขาก็ขอดูรูป ผมเอารูปให้ดู เขาบอกร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมก็ทรุดตรงนั้น เขาต้องการความยืนยันว่าลูกจริงๆ ให้ไปดูในลิ้นชักเลย พอเห็นปุ๊บก็รู้ว่าใช่

วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ฟลุ๊คเขาไปไหน?
แม่ : เขามาขอตังค์ 40 บาท บอกจะไปเล่นฟุตบอลอะไรของเขา แล้วเขาก็เข้ามาหอมแก้มแม่ แล้วก็ออกไป หลังจากนั้นแม่ก็พักผ่อน เพราะตอนเช้าต้องไปขายของ ก็มีการตามเขาแต่เขาปิดเครื่อง ตอนนั้นเขาไปเล่นฟุตบอล แถวๆ ฝั่งอินทามระ ไปกันสามคน ประมาณสองทุ่มที่เขามาขอตังค์

เหตุการณ์คืนนั้นเท่าที่รู้มาจากคำบอกกล่าวของกลุ่มของฟลุ๊คในคืนนั้น เขาเล่าว่ายังไงบ้าง?
พ่อ : ฟังมานิดหน่อย เขามาขอตังค์แม่แล้วไปหาเพื่อน ประมาณสี่-ห้าทุ่มเขาก็กลับมาแล้วออกไป เราก็คิดว่าไปรับเพื่อนจากโน่นนี่

เหตุการณ์บนท้องถนน ที่บอกว่าฟลุ๊คขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปซ้อนไป 3 คน หลังจากนั้นตร.ไปเห็นแล้วจะจับ เพราะซ้อนสามและไม่สวมหมวกกันน็อก?
ลุง : น้องคนที่ขับน้องโฮจุนยังอยู่รพ. เขาบอกจะให้ปากคำกับตร.อย่างเดียว ข้อมูลเขาเราไม่ได้บังคับแต่อย่างใด แต่เขาพูดได้อยู่ แต่งดเยี่ยมอะไรต่างๆ แต่จากที่ดูเหตุการณ์จากจุดแรกที่ตร.ไล่บี้กันมา เรามารู้อีกทีอีกวันให้หลัง บ่ายโมงอีกวัน เพราะช่วงดึกคืนนั้นไม่มีใครรู้เลย ว่าน้องเสียชีวิตไปแล้ว

ภาพเหตุการณ์วันนั้นเป็นยังไง?
ลุง : ได้เห็นแต่จากกล้องวงจรปิดอย่างเดียว

ดูจากกล้องวงจรปิด ฟลุ๊คขี่กับเพื่อนไป 3 คน ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกแล้วไปเกี่ยวกันตรงไหน?
ลุง : จากสวนป่าประมาณ 300 เมตร ด่วนดินแดงแยก 1 เลยไป ตร.ก็ตามไปเรื่อยๆ จากจุดเมื่อกี้ที่ไล่มา มาถึงจุดอุบัติเหตุประมาณ 300 เมตรได้ ไถลลื่นไปเลย

เกี่ยวกัน ทีนี้ประเด็นที่เกิดขึ้น ฟลุ๊คนั่งซ้อนหลังสุด ตกลงมาเสียชีวิต ตร.นำตัวส่งรพ.?
ลุง : ไม่ใช่ตร. เป็นรถพยาบาล และปอเต๊กตึ๊งเขาแยกกันไป

ยอมรับว่าผิดไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกและซ้อนสาม หลังจากนั้นตร.ตามไป เพื่อนฟลุคยืนยันมั้ยว่าขับเบียดกัน?
ลุง : ขับเบียดกันตลอด ตอนเกี่ยว น้องโฮจุนคนขับหันมา รถ ตร.เบียดแล้ว แฮนด์สองคันเกี่ยวกันก็พากันล้มหมด ตร.มาเกี่ยวแล้วรถล้มไป ในคลิปก็ถือว่าขับเร็วมาก

น้องฟลุ๊คไปกับโฮจุนและปกป้อง รถเป็นของฟลุ๊คตร.เห็นซ้อนสามไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกก็ขับรถตาม หลังจากนั้นรถเกี่ยวกัน ฟลุ๊คเสียชีวิตทันทีเลยมั้ย?
แม่ : น่าจะเสียชีวิตทันที
ลุง : แผลข้างขวาฉกรรจ์มาก เนื้อหลุดออกมาเลย

เห็นบอกว่าติดใจว่าทำไมกลายเป็นศพไร้ญาติ?
ลุง : ตอนแรกที่ตร.สองนางขี่ประกบรถหลาน มาเส้นสวนป่า ออกวิภาวดีขาเข้า ยันไปประสบที่เกิดเหตุ เบียดมาตลอดแบบนั้น หลังเกิดเหตุพ่อแม่ไม่รู้เรื่องเลย แล้วถือวิสาสะ หน่วยงานต่างๆ เอาศพไปผ่า ไม่ได้ปรึกษา ขอความเป็นธรรมด้วย และหน่วยงานตร.ต้องให้ความกระจ่างด้วย เขามีพ่อแม่ที่รออยู่ในคืนนั้น แล้วศพน้องเสียชีวิต ตีสอง มารู้อีกทีบ่ายโมงอีกวัน มันเกิดอะไรขึ้น แล้วผลชันสูตรรออีก 2 เดือน มันเป็นวิธีการที่ช้าเกินไป เราอยากเดินต่อในเรื่องคดี

ในร่างน้องไม่มีบัตรแต่มีรอยสักเป็นชื่อน้อง?
ลุง : มีรอยสักเป็นชื่อนามสกุลเขาด้านหลัง ชัดเจนเลย แต่ไม่มีใครดู น้องคนกลางยังมีสติ พูดได้อยู่ ให้ข้อมูลได้ ทำไมตร.สองนายไม่ใช้วิธีการ แม้แต่ป้ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ก็มีชื่อแม่ เช็กได้ตอนนั้นเลย แต่ไม่เช็ก ปล่อยล่วงเลยไปอีกวัน บ่ายโมงกว่าๆ ครอบครัวถึงจะรู้

ติดใจเรื่องเกี่ยวกันมั้ย?
ลุง : อันนั้นก็ติดใจ ถ้ารถไม่เกี่ยวกัน ไม่มีทางเกิดอุบัติเหตุแน่นอน ไม่ล้มแน่นอน

คำพูดนี้มาจากทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตร.นครบาล ท่านชี้แจงว่าประมาณตีสอง ตร.สายตรวจสองนาย ไปพบเยาวชนชาย 3 คน ขี่รถซ้อน 3 ไม่สวมหมวกนิรภัยจึงเรียกตรวจค้น สามคนกลับขี่รถหนีไป จนจุดเกิดเหตุ ตร.บอกให้จอด แต่รถเยาวชนเบี่ยงรถมาชนสายตรวจเอง ล้มเองทั้งสองคน จากการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ พบกัญชาซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะด้วย?

ลุง : ในสถานที่เกิดเหตุไม่มีพยานหลักฐาน เขาอาจจะปรักปรำ เขาอาจจะพูดมาอย่างนั้น เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นพยานหลักฐาน ยังไม่เห็นอะไรเลย และยังไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าเกิดเหตุแบบนั้น ใครจะพกกัญชาไปบนถนนแบบนั้น เป็นไปได้ยากมาก

อ.มองยังไง?
ปรเมศวร์ : ถ้าถามว่าใครเร็วกว่าใคร ถ้าดูตามภาพ ตร.เร็วกว่า ถ้าไม่เร็วไล่ไม่ทัน อย่างที่คุณลุงว่าวิธีการจับน่าจะดีกว่านี้ ใครเบียดใครเราไม่รู้ต้องดูภาพ แต่ติดใจตรงทำไมเป็นศพไม่มีญาติ เด็กสองคนยังอยู่ น่าจะสอบถามได้ว่าเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน คำว่าศพไร้ญาติจะเจอเฉพาะไปเจอคนนอนตายอยู่ ถึงเรียกว่าไร้ญาติ แต่มาด้วยกันแบบนี้ ไม่ไร้ญาติแน่นอน ทีนี้บาดแผลตรงหน้าอกไม่แน่ใจ รายการชันสูตรพลิกศพมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งดูสภาพบาดแผล ที่ท่านพูดถึงนั่นคือรายงานการพิสูจน์อาจจะช้าเพราะสรุปสาเหตุการตายจริงคืออะไร อย่างคนถูกยิงตาย ถูกอวัยวะสำคัญตรงไหน ที่ติดใจตร.มีบาดแผลตรงไหน สามคนนี้มีบาดแผลตรงไหน ถึงจะอธิบายว่ารถเกี่ยวใคร ล้มซ้ายล้มขวา

ลุง : ข้อมูลวงจรปิดที่ไปขอมา ยังได้ไม่หมด มีจุดที่น่าจะชัดเจนกว่านี้อีก 4-5 ตัว ก็ยังดำเนินการกันอยู่
ปรเมศวร์ : ตรงนั้นไม่ต้องห่วง ตอนนี้อาชญากรรมมันสืบได้หมดทุกเรื่อง

อยู่ในสายกับ "พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย" รองผบช.น. กรณีตกลงใครเบียดใคร?
พล.ต.ต.ปิยะ : อันดับแรกขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว กรณีความสูญเสียที่เกิดขึ้น กรณีนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นรายละเอียดอย่างที่คุณพ่อกล่าวเมื่อสักครู่ วันเกิดเหตุน้องฟลุ๊ค กับเพื่อนอีก 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย บริเวณสวนป่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีตร.คอยป้องกันเหตุ รักษาการณ์ เมื่อมีตร.พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ให้สัญญาณหยุดแต่ปรากฏว่ารถดังกล่าวไม่หยุด เลยมีการทำการติดตามและจับกุมเพื่อเรียกตรวจค้น ระหว่างติดตามมีการเกี่ยวชนกัน เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์สองคันล้มลง ตรงนี้มีกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกล้องวงจรปิดของตร. ปรากฏภาพชัดเจนอยู่ในสำนวนเรียบร้อย เมื่อรถล้มลง สองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ คนอาการมากหน่อยคือน้องฟลุ๊คตร.แม้จะได้รับบาดเจ็บ ก็ยังช่วยซีพีอาร์ เพราะเลือดออก และเรียกกู้ภัยนำส่งรพ. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

กัญชาที่เจอ ฝั่งนี้ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องเลย?

พล.ต.ต.ปิยะ : จากการตรวจค้นโดยละเอียดของตร. พบวัตถุ ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าใช่กัญชาหรือไม่อย่างไร นำส่งไปตรวจหน่วยงานที่เกียวข้อง ถ้าเป็นกัญชา คงต้องแจ้งข้อกล่าวหาในโอกาสต่อมา และต้องพิสูจน์ทราบอีกว่ายาเสพติดที่พบเป็นของใคร เพราะมาด้วยกัน 3 คน ต้องเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ปรเมศวร์ : จริงๆ กระบวนการที่ท่านพูดถูกต้อง แต่คำว่าไม่มีญาติไม่ควรมี

เขาสงสัยว่าทำไมไม่แจ้งกลับมา จนข้ามไปอีกวันนึง?
ลุง : ผมคาใจตรงนี้ ทิ้งช่วงระยะเวลาห่างกันเกินไป

ปรเมศวร์ : ทางนี้บอกว่ารถมอเตอร์ไซค์ก็รู้ว่าของใคร คนขับสองคนก็รู้ชื่อ ถ้าติดต่อญาติสองคนนั้นก็น่าจะรู้ ทำไมแม่น้องโฮจุนยังมาบอกได้

ลุง : ใช่ ในงานสวดพระอภิธรรม แม่น้องโฮจุนยังมาอยู่

ปรเมศวร์ : ในเมื่อแม่โฮจุนมาบอกได้ ทำไมบอกทางนี้ไม่ได้ เขาติดใจแค่นี้ ต้องรอชี้แจงอีกรอบ จริงๆ 8 โมงน่าจะบอกได้แล้ว