อ้วกแทบพุ่ง! ปาอึล้างแค้นชาวบ้านซวยทั้งซอย กรรชัยถึงขั้นกุมขมับ

ปิง : ลุงคนนี้แกมีพฤติกรรมโยนอุจจาระ ทีแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าแกไปโยนเพราะอะไร เราก็ไปบอกญาติให้ไปตักเตือนแกหน่อยว่าอย่าทำแบบนี้ บ้านแกอยู่ติดกับผม เป็นบ้านตึกแถว หลังบ้านเป็นตะแกรงกั้น มองเห็นกัน ลุงแกจะนั่งอยู่ข้างบ้าน ผมก็ออกไปซักผ้า ผมก็เห็นแกถ่ายใส่ถุงแล้วนั่งขยำๆ ขี้ตัวเอง ด้วยความเป็นเพื่อนบ้านกัน ก็ทำเป็นพูดว่าอย่าทำขี้สกปรก ไม่อยากให้แกสะเทือนใจ แกป่วยหรือเปล่าไม่ทราบ เราก็ไม่กล้า ได้แต่ปล่อยผ่านไป ทีแรกไม่รู้แกทำไปเพราะอะไร ทีนี้พอออกไปหน้าบ้าน แกเอาไปหมกตามข้างทาง ในคลิปแกเดินไปหยิบถุงขี้ที่แกหมกไว้ เอามาแอบตรงสแลนที่ขึงเหมือนหลบกล้อง แล้วแกก็โยนไปที่เขาจอดรถกัน เพื่อแกล้งฝ่ายนี้

แกมีเหตุผลที่โยน แต่ถุงนั้นมั่นใจว่าอุจจาระ?

ปิง : ครับ (หัวเราะ) ที่แกขยำกับมือตัวเองแล้วโยน

ทำไมแกต้องโยน มีเรื่องกับทางฝั่งพี่?

วิทยา : ครับ เคยมีเรื่องกันมาก่อน ลุงคนนี้ชื่อลุงซา ปัญหาคือเขาสาดน้ำหน้าบ้าน แล้วสาดลามเข้าไปในบ้าน บ้านเราอยู่ติดกัน มันไม่ใช่ครั้งเดียว มันหลายครั้ง เวลาเราจะเข้าออกบ้าน เขาไม่หยุดการกระทำ ก็ยังสาดอยู่ บางทีไม่พอใจก็จะตีเรา จนเหตุการณ์เกิดขึ้น วันนั้นเขาสาดเข้าไป ลูกสาวเลยเรียกให้มาดู พอผมจอดรถจะเดินเข้าบ้าน ผมมีลูกหมาตัวนึง ปล่อยปุ๊บลูกหมาก็วิ่ง ผมเหมือนดุหมา แกก็ปรี่เข้ามา ผมก็ป้องกันตัวใช้ไม้ เพราะผมเป็นโรคกระดูกทับเส้น ใช้ไม้ตวัดหน่อยแต่ไม่ได้ตี เหมือนป้องกันตัว ถ้าตีคงหนักกว่านี้

พี่ไม่ได้ไล่แก?

วิทยา : ไม่ได้ไล่ เราดุหมา แต่เขาปรี่มาต่อย ก็เอาไม้ตวัดไปโดนข้างๆ หน่อยเดียว ลูกเขยก็เข้าไปห้าม เขาก็ไม่ฟัง เขาก็ต่อยผมอีกจนผมล้ม

นี่คือปฐมบทการปาขี้?

วิทยา : ใช่ ต่อยผมจนล้ม ลูกเขยห้ามเขาก็ต่อยลูกเขย ลูกเขยก็ลากเขามาต่อย ต่อยกับเขา เขาไปแจ้งความดำเนินคดีผม เคลียร์กันลักษณะว่าอยู่บ้าน 7 วัน บอกซี่โครงหัก 7 ซี่ ทั้งที่เขาเดินไปเดินมา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อยู่ๆ ซี่โครงหัก 7 ซี่ ร้อยเวรก็ทำเรื่องส่งฟ้อง อัยการเคลียร์ให้ยอมความ จบที่ 8 หมื่น เราก็จ่ายเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวเขาไม่เลิกรากับเรา ยังทำพฤติกรรมเดิมๆ พวกผมอยู่ 10 ปีไม่เคยติดกล้อง แต่ตอนนี้ต้องติดกล้องเพื่อให้เห็นพฤติกรรมเขา

เห็นอะไรบ้าง?

วิทยา : เยอะครับ รถผมจอดก็เอาอุจจาระมาเหวี่ยงไม่ให้ผมจอด ไปฉี่ข้างทางเอาใส่กระป๋องมาสาดรถผม ตอนนั้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เอาอุจจาระเอามายัดที่ล้อแม็ก ตรงจุ๊บยากของผม นี่เรื่องจริง

เอาอึไปอุดจุ๊บยาง ลมยางเนี่ยนะ?

ติ๊ก : ใช่ค่ะ

วิทยา : ทีแรกคิดว่าน้อย ผมก็ล้าง แต่พอล้างข้างหลังเป็นกองเลย ยัดไว้ในล้อแม็ก มีอีกหลายเรื่อง บางทีรถแม่บ้านจอดอยู่ แอบเอาน้ำสาด วันนั้นวันเดียว เอาน้ำสาดตอนเช้า บ่ายกินไก่หน้าบ้านตัวเองเอากระดูกไก่มาเขวี้ยงใส่รถขนม ตอนเย็นเอาน้ำแกงเหลือๆ มาสาดอีก บันทึกไว้หมด

วิทยา : เขาทำอะไรไม่ได้ครับ

เขาเลยต้องมาร้องสื่อ ขอความเป็นธรรม เขาทนทรมานมาก ทรมานมั้ย?

ติ๊ก : ทรมาน กลับมาก็ได้กลิ่นขี้ ไม่ไหวค่ะ เดือดร้อนกันไปทั่วค่ะ ญาติใครมาต้องจอดรถกันตรงนั้น ดือดร้อนกันหมด

ถ้าเทศบาลไปจัดการตั้งแต่แรก?

ติ๊ก : คงจบแล้วค่ะ ไม่ต้องมานั่งอยู่นี่หรอกค่ะ เราเคยเตือนเขาแล้วให้หยุดพฤติกรรมนี้ซะ เขาก็ไม่ฟัง มันไม่ไหวแล้ว

เคยเตือนมั้ย?

ปิง : เขาบอกว่าเอารูปถ่ายมา เอาตร.มาจับกูไป ไม่กลัวหรอก มึงจะติดกล้องกี่ร้อยตัวกูก็ไม่กลัว อย่างนี้ครับ

เอาหนูไปปล่อยในรถพี่?

วิทยา : แฟนผมขายขนมไทย เป็นรถเข็น ผมบันทึกไว้หมด เขาเอามาปล่อย มีภาพยืนยันครับ โยนใส่รถขนมครับ

จะเอายังไงกัน ต้องการอะไร?

ติ๊ก : อยากให้หยุดพฤติกรรม

ปิง : ต้องการให้ลุงหยุดพฤติกรรม หรือให้ลุงลองไปพบแพทย์ดูว่าที่ทำเพื่อระบายแค้น ลุงมีอาการป่วยทางจิตหรือเปล่า

ติ๊ก : เราเคยถามเขา เขาไม่รับปากว่าจะหยุดได้มั้ย

ปิง : เขาไม่ยอมหยุด ไม่ยอมรับปากว่าจะหยุดได้หรือเปล่า แล้วท้าทายว่าจะหาขี้เป็นถังๆ มาราดแถวนั้นให้หมด เราจะไปทำอะไรเขาได้

ฟังแล้วดูท้อใจ คนทั้งซอยกี่หลังคาเรือน?

ปิง : เป็นสิบครับ เป็นเหมือนตัวแอล ลูกเล็กเด็กแดงอยู่ไม่ได้ พอถุงอึถูกรถทับมันเหม็นไปทั้งซอย

ติ๊ก : ขี่รถผ่านต้องได้กลิ่นค่ะ

แก้ปัญหายังไง?

ทนาย : อดทนมากเลยนะครับ เรื่องนี้มีกฎหมายเกี่ยวข้อง หน่วยงานรัฐสามารถจัดการได้ ภาคประชาชนจัดการไมได้หรอกมันจะใช้อารมณ์ ต้องให้หน่วยงานรัฐมาดูแลเรื่องนี้

ลุงซา : จริงครับ ไม่ได้ปาทุกวัน นานๆ ที บางทีเห็นแล้วมันหมั่นไส้ (หัวเราะ) มันมีเรื่องดั้งเดิมเลย เขามาตีผมที่หน้าบ้านผม เขาหาว่าผมไปแกล้งเขา วันนั้นผมเดินไปข้างนอกถนนเกือบสองเมตรกว่าผมไม่ได้คิดอะไร น้องเขยมันเอาไม้หวดผม คำเดียวผมก็ไม่ได้พูด

เหตุครั้งนั้นเหมือนเคลียร์ไปแล้ว เขาจ่ายเงินให้ลุงไปแล้ว?

ลุงซา : มันยังแค้นอยู่ มันเจ็บ

การเอาถุงอุจจาระไปโยนแกล้งเวลาหมั่นไส้ แต่คนอื่นเขาเดือดร้อน ไม่ทำอีกแล้วได้มั้ย?

ลุงซา : ได้ครับ เมื่อกี้ผู้กำกับสุพรรณฯ มาเคลียร์ให้ เขาพูดดี มีเหตุผล ผมก็เชื่อฟัง บางทีเขามา กะมาเล่นผม พาเทศบาลมาเล่นผม ก็พวกเขา ผมก็ไม่เอา เขาพูดจาไม่ดี แต่นี่ผู้กำกับพูดจาโอเค มีเหตุผลดี

กรณีที่เอาหนูไปโยนใส่รถเข็นอาหาร ลุงทำจริงตามที่เขากล่าวอ้างหรือเปล่า?

ลุงซา : จริงครับ ธรรมดาบ้านผมไม่รู้หนูมาจากไหน ก็เอากาวดักหนู บางวันได้ตัวสองตัว ก็ดึงๆ แล้วล้างน้ำ บางทีก็สงสารไปล้างแฟ่บ ไม่ฆ่ามัน บางตัวก็ปล่อย บางตัวดึงแล้วดิ้นๆ ผมก็สะบัดไป กาวมันเหนียว ติดข้างฝา ตกลงมา คิดว่าสักพักจะไป ไม่ได้คิดอะไร 6-7 ตัว ผมปล่อยดงหญ้าหมดเลย

ลุงโยนไปที่รถเขามั้ย?

ลุงซา : ผมเขวี้ยงไปข้างฝา มันติดมือ กาวมันเหนียว ผมก็ไม่ได้มีเจตนา เขาคิดว่าผมแกล้งเขา ก็ไม่เป็นไร ผมยอมรับผิด

ปิง : ลุงยอมรับผิดแล้ว ลุงช่วยไปเก็บกวาดถุงอุจจาระที่อยู่ในพื้นที่นั้น แล้วเอายาฆ่าเชื้อไปจัดการได้มั้ย ลุงต้องมีความรับผิดชอบนะครับ

เดี๋ยวเทศบาลจัดการให้?

ลุงซา : อุจจาระไม่รู้ใครเอาไปทิ้งที่ไหนแล้ว ผมไม่ทราบครับ

ถ้าไม่เคลียร์วันนี้จะเป็นปัญหาสังคม มุมฝั่งพี่วิทยา ไม่ติดใจนะ?

วิทยา : ผมคิดว่าเขาจะทำได้มั้ย การที่ไม่รังควาน

ทนาย : ที่จริงมันทำไม่ได้อยู่แล้ว มันผิดกฎหมาย การที่จะเอาอุจจาระไปทิ้งมันผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท พ.ร.บ. รักษาความสะอาด ปรับครั้งละ 2 พันบาท ทิ้งกี่ครั้งโยนกี่ครั้งก็ปรับเป็นครั้งๆ ไป มันไม่สามารถทำได้เลย แล้วผู้เสียหายคือทุกคนที่อยู่ตรงนั้น รัฐก็เป็นผู้เสียหาย ดังนั้นจะบันทึกหรือไม่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำ แต่ถ้าเพื่อความสบายใจ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองกวดขันหน่อย ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ก็ว่ากล่างตักเตือนกันไป เพราะเรื่องแบบนี้ให้ชาวบ้านเตือนกันเองไม่ได้

ทำหนังสือยินยอมไกล่เกลี่ยได้มั้ย?

ทนาย : มันยินยอมไกล่เกลี่ยได้ ตกลงกันได้ ถ้าผิดเงื่อนไขจะมีข้อบังคับอะไร เช่นยอมให้ปรับ อะไรก็ว่ากันไป แต่ถ้าไม่มีข้อตกลงแล้วผิดเงื่อนไขก็ไม่มีเงื่อนไขก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะทำข้อตกลง ต้องมีข้อบังคับว่าถ้าผิดเงื่อนไขควรมีบทลงโทษยังไง

ลุงยินดีทำหนังสือยอมความมั้ย?

ลุงซา : เดี๋ยวเย็นนี้ ผู้กำกับจะให้มาจับมือเซ็นสัญญากัน เขาพูดดีมากเลย ผมก็โอเค ธรรมดาเขาเอาคนที่อำเภอมา ฟังดูไม่แฮปปี้ ผมก็ไม่เอา แต่นี่เขาพูดดีมากเลย มีเหตุผล

ลุงซาก็ยอมรับว่าทำจริง ก็เข้าใจชาวบ้านว่าจะอยู่กันลำบาก ถ้ามีเรื่องแบบนี้ ต่อสายหานายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณ ถ้าเจรจาจะสบายใจไปส่วนนึง?

ทนาย : ผมเห็นด้วยกับผู้กำกับหรือรายการพี่หนุ่มก็ดี เป็นเรื่องเล็กน้อยที่จะกลายเป็นน้ำผึ้งหมดเดียวได้ ถือว่าเป็นเรื่องยุติข้อบาดหมางจากเรื่องเล็กน้อย ที่จากน้ำผึ้งหยดเดียว มันเป็นเหตุให้ยิงกันได้นะ ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญในชุมชน เดี๋ยวจะกลายเป็นปัญหาชุมชน เคยเกิดเหตุการณ์แค่คนๆ เดียว แล้วลูกหลานมายิงกันภายหลัง เคยมีมาแล้ว

ดร.เอกพันธุ์ : จริงๆ แล้วทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้รับเรื่องร้องเรียน 2 ครั้ง ครั้งแรกเดือนก.พ. ปี 64 ครั้งที่สอง เดือนมิ.ย. ปี 64 เทศบาลก็ลงพื้นที่ เดือนก.พ. เราพบว่ามีการนำเศษอาหาร เศษขยะมาทิ้งถนน เราก็ตักเตือน ให้ลุงซาเซ็นรับทราบไว้แล้ว มีหลักฐานอยู่กับทางเทศบาล เรื่องก็เงียบไป พอ มิ.ย. 64 ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนอีกครั้งว่ามีการกวาดขยะ เอาหนูมาใส่ที่ล้อรถ เอาอุจจาระใส่ถุงมาใส่ล้อรถ โยนบนถนน เราก็ลงพื้นที่ แต่ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่รายงานว่าไม่พบถุงอุจจาระบนถนน แต่มีการเอาไปวางที่ดินว่างเปล่าเอกชน ไม่พบผู้ใดเป็นคนกระทำ ช่วงลงพื้นที่ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันเสียงดังต่อหน้าเจ้าหน้าที่มีการห้ามปรามกัน ก็ได้แนะนำไปให้จัดการขยะให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล ถ้ามีการทิ้งขยะ หรือเหตุรำคาญตามกฎหมายเราจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งสองครั้งเราได้แจ้งศูนย์ดำรงธรรมให้รับทราบทั้งสองครั้ง เทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเลย

วิทยา : เทศบาลเตือนแล้วเขายังไม่ทำ จะให้ผมไปเจรจา จับมือกัน ผมถามว่าพฤติกรรมเขาคือหยุดชั่วครั้งชั่วคราว

ปิง : ให้เทศบาลมาเก็บทำความสะอาดบริเวณที่แกทิ้งไว้ ยังมีอุจจาระบริเวณนั้นอยู่ ตอนแรกเขาปล่อย ไม่มาตามเรื่อง เราบอกว่ามีอุจจาระอยู่จริงๆ เขาก็ไม่มา บางทีรถทับแตก แห้ง ติดถนน ติดอะไร

ทางนี้เขาแจ้ง แต่บางทีเทศบาลไม่มาดูแล?

ดร.เอกพันธุ์ : ในวิดีโอที่กำลังถ่าย ถนนหน้าบ้านตรงนี้ไม่ใช่ถนนสาธารณะ มันเป็นภาระจำยอม กลายเป็นว่าเทศบาลเข้าไปดูแลไม่ได้ ตามกฎหมายนะครับ มันเป็นที่ดินเอกชน แต่ให้คนที่อยู่ในพื้นที่สามารถเข้าออกได้ อันนี้คือข้อกฎหมาย แต่ถามว่าเทศบาลไปดูแลให้มั้ย ถ้าจับมือกันปุ๊บจะให้เทศบาลไปช่วยทำความสะอาดให้ ตรงนี้ผมจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลให้ แต่ข้อสำคัญคือเป็นการขัดแย้งกันสองฝ่าย ผมพยายามใช้หลักรัฐศาสตร์ในการทำงาน ถ้าผิดก็ผิดกันทั้งประเทศ แต่เราจะทำยังไงให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข นี่คือเป้าหมายสำคัญ แต่ถ้ามีปัญหากันเองเราจะเข้าไปแก้ปัญหาให้ทุกกรณี บางครั้งทะเลาะกันสองฝ่าย แต่เรากลายเป็นจำเลย มีการฟ้องมาเหมือนกัน ก็ยินดีช่วยแก้ปัญหาให้ ต้องบอกก่อนว่าเทศบาลเองไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่วิธีการจัดการปัญหา มีขั้นตอนของมันอยู่ ไม่อยากให้ทำอะไรแล้วเจ้าหน้าที่เรามีความผิดไปด้วย ถ้าทุกฝ่ายเคลียร์กันหมดแล้ว เทศบาลเองก็ยินดีไปทำความสะอาดให้ ผมดูกฎหมายแล้ว มีกฎหมายอยู่ 2 ตัว พ.ร.บ.รักษาความสะอาดเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กับพ.ร.บ.สาธารณสุข ซึ่งถ้าลุงซายังทำอย่างนี้อยู่ มีหลักฐานให้เห็นชัดเจนว่าลุงซาเป็นผู้กระทำจริง เทศบาลสามารถดำเนินคดีกับลุงซาได้ แต่ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น อยากให้คุยกันให้เคลียร์มากกว่า

สบายใจขึ้นมั้ย?

ติ๊ก : สบายใจขึ้นค่ะ

ทนาย : ทุกคนเป็นพยานได้ แม้บางอันไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่คนในชุมชนเป็นพยานได้ ก็ไปร้องเรียนได้ ขึ้นอยู่กับเทศบาลหรือพนักงานสอบสวนจะเคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมายหรือเปล่า ถ้าแกไม่เลิก โดน 5 ครั้งก็ดำเนินคดี 5 ครั้ง โดนทุกครั้งก็ต่างกรรมต่างวาระ ปัญหาคือบังคับใช้กฎหมายหรือเปล่า