เด็กเอ็นผวาเจอชักปืนขู่-ตามราวี หลังไม่เอ็นเตอร์เทนลูกในชุดนักเรียน

หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง เด็กเอ็นผวาเจอชักปืนขู่-ตามราวี หลังไม่เอ็นเตอร์เทนลูกในชุดนักเรียน

กรณีเด็กเอ็นเตอร์เทน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ "นายเอกพล" หรือ "เอก" หลังรับงานเอ็นเตอร์เทนชงเหล้าที่บ้านพักนายเอกพล ที่บ้านพักย่านตลิ่งชัน แต่กลับถูกใช้ปืนข่มขู่คุกคาม ตามไปราวีถึงสถานที่ทำงาน ชนวนเหตุเกิดจากผู้เสียหายไม่ยอมเอ็นเตอร์เทนบุตรชายวัย 17 ปีที่กำลังสวมเครื่องแบบชุดนักเรียนของนายเอกพล ที่นั่งร่วมงานสังสรรค์อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีการข่มขู่ให้โอนเงินคืน

รายการโหนกระแสวันที่ 2 ส.ค. 65 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" สัมภาษณ์ มี่, มาย, หมวย, ฟาง ผู้เสียหาย รวมทั้ง ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ฟางเล่าเหตุการณ์ให้ฟังก่อน?

ฟาง : เมื่อวันที่ 26 หนูไปเอ็นเตอร์เทนย่านเพชรเกษม เป็นงานแรกค่ะ ติดต่อไปกับพี่คนนึง หนูไปเอ็นเตอร์เทนกันสามคน มีหนู มี่ มาย เอ็นเตอร์เทนปกติ แล้วมีคนชื่อเอกมาในงานชมพวกหนูว่าเอ็นเตอร์เทนดี น่ารัก เขาก็ชวนหนูไปงานวันที่ 27

26 ไม่ใช่งานเขาแต่เป็นงานอีกคนนึงเรารับงานเอ็นวันนั้น แต่คนชื่อเอกเขามา และเห็นพวกเรา แล้วเขาถูกใจ เขาบอกว่าวันเกิดเขาให้ไปเอ็นเตอร์เทนเขาหน่อย?
ฟาง : ใช่ค่ะ เขาขอ 4 คน ก็คือมี่ , มาย, หมวย, ฟาง เขาถามหนูว่า 3 ทุ่มถึงตี 4 คิดเป็นเงินเท่าไหร่ หนูบอกคนละ 4,500 เขาบอกว่าคนละ 3 พันได้มั้ย งานพี่ทิปดี เงินถึง ยังไงก็เกินค่าตัวแน่นอน พวกหนูพอได้ยินก็รู้สึกว่าก็ได้นะ พี่เขานิสัยดี คุยรู้เรื่อง ไม่มีการข่มขู่ ไม่มีปัญหาอะไรเลย พวกหนูก็ตัดสินใจไป พอวันที่ 27 เขาให้ไปบ้านเขาย่านตลิ่งชัน หนูไปกัน 4 คน แล้วเหมือนเขาเรียกเพิ่มเป็น 7 คนทั้งหมด

ไปสี่ไม่พอ ขออีกสาม?
ฟาง : ใช่ค่ะ แล้วพอไปถึงเขาให้มี่เป็นคนดูแล เขานัดช่วง 3 ทุ่มค่ะ คนไปประมาณ 30 กว่าคนได้

เราเอ็นก็คือชงเหล้า?
ฟาง : ก็คือทำให้คุยสนุก ชงเหล้าค่ะ

ในงานนั้นมีตร.ไปด้วยเหรอ?
ฟาง : ใช่ค่ะ มีตร.ในเครื่องแบบค่ะ ไปอวยพรแล้วกลับเลย แล้วก็มีนอกเครื่องแบบไปด้วยค่ะ

หลังจากนั้นเหตุการณ์เป็นยังไง?
มี่ : เรื่องเกิดที่หนูค่ะ ตั้งแต่26 ที่เจอกันวันแรก พี่เอกเขาตกลงกันหนูว่าเดี๋ยววันเกิดเขาให้หนูไปเอ็นเตอร์เทนลูกชายเขา ตอนนั้นหนูยังไม่ทราบว่าลูกชายเขาอายุเท่าไหร่ หนูก็บอกว่าโอเคค่ะ เดี๋ยวหนูดูให้ พอไปถึงหน้างานวันที่ 27 ไปเจอลูกเขายังใส่ชุดนักเรียนอยู่ หนูก็ตกใจ ก็ถามว่านี่ลูกชายพี่เหรอคะ เขาก็บอกว่าใช่ ไปนั่งตักเลย หนูก็บอกว่าพี่คะมันดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ น้องยังดูเด็กอยู่เลยและยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ หนูทำงานไม่เต็มที่ หนูว่ามันไม่เหมาะสม หนูขอไม่นั่งได้มั้ย เขาบอกว่านั่งไปเลยนี่บ้านพี่ ไม่มีปัญหาอะไร หนูเลยจำใจต้องนั่งค่ะ

ต้องนั่งตัก?
มี่ : หนูจำใจนั่งข้างๆ เฉยๆ ค่ะ เพื่อให้เขาเห็นว่าโอเคเรานั่งแล้ว พอเขาเดินไปปุ๊บหนูไม่สบายใจ ก็เดินไปหาพวกพี่ฟางถามว่าเอาไงดีหนูไม่สบายใจ หนูไม่อยากนั่งตรงนั้น พี่ฟางบอกว่าไม่เป็นไร มานั่งตรงนี้กับพี่ก็ได้ หนูก็ไปนั่งกับพวกพี่ฟางที่ดูแลผู้ใหญ่อยู่ สักพักเขาเดินกลับมาหาหนูว่าทำไมมานั่งตรงนี้ให้กลับไปดูแลลูกชายเขา เขาเดินมาว่าหนู หนูก็จำใจเดินไปอีกครั้ง แต่ตอนนั้นแฟนเขา คือแม่ของลูกชายเขามาเบรกหนูไว้ว่าไม่ต้องไปนั่งกับลูกเขาแล้ว ลูกเขาเรียกเด็กใหม่มา ให้หนูไปนั่งกับผู้ใหญ่เลย

ลูกชายอายุ 17 เรียกเด็กใหม่มาแล้ว อยู่ในกลุ่มเรามั้ย?
มี่ : ไม่ค่ะ เป็นเซ็ตอื่นค่ะ มาอีกกี่คนไม่ทราบเลย แต่มาหลายคน ณ ตอนนั้นที่แฟนเขาพูด พี่เอกก็ยืนอยู่ เขาได้ยินด้วย แต่เขาก็ไม่ฟังอะไร เขาเดินมาต่อว่าหนูเหมือนเดิม เขาพูดคำเดิมว่าทำไมไม่ดูแลลูกชายเขา มานั่งตรงนี้ทำไม หนูก็ยืนยันว่าไม่ได้จริงๆ น้องยังเด็กอยู่ หนูยืนยันไปว่าหนูไม่นั่ง

เขาเมามั้ย?
มี่ : ไปถึงก็เมาแล้วค่ะ จนหนูยืนยันเขาเลยเดินกลับไป เพราะต้องไปดูแลแขกคนอื่น ก็ยื้อเวลาได้ เขาก็เดินไป หนูก็นั่งอยู่กับพวกพี่หนู

ในคลิปเขาบอกว่าบ้านนี้เขาใหญ่สุด แต่หนูบอกว่าเมียพี่ไม่ให้หนูนั่งแล้ว เพราะใจนึงก็ไม่อยากนั่ง ก็อ้างเมียเขาด้วย เมียเขาบอกจริงๆ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ฟาง : เขาเมาค่ะ แต่ไม่ได้กินเหล้า

มาย : เป็นยาชนิดเม็ด แผงสีแดง เขากินจำนวนมากอยู่ค่ะ กินให้พวกหนูเห็นหมดเลยค่ะ กินแล้วหลังจากนั้นใครพูดอะไรต่อให้อธิบายเขาก็จะไม่ฟัง จะพูดวกไปวนมาอยู่อย่างนั้น

ฟาง : ช่วงตีหนึ่งตีสอง เขาไม่ค่อยมาอยู่ตรงหน้างานลูกค้าผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ ตั้งแต่เริ่มงานสามทุ่มเขาเพิ่งเข้ามาโวยวายช่วงตีหนึ่งตีสอง ไม่ได้มาดูการทำงานของพวกหนูเลย เข้ามาตีหนึ่งตีสองแล้วโวยวาย สักพักน้องทำหน้าหงุดหงิด

มี่ : หนูโดนกดดัน เขาพูดซ้ำๆ ว่าให้ไปดูแลลูกเขา ยังไงก็ต้องไป ถึงลูกเขาจะมีเด็กแล้วก็ต้องไปอยู่ดี ไม่ต้องสนใจใคร หนูเริ่มกดดันเริ่มเถียงว่ามันไม่ได้จริงๆ เขาก็ยังพูดคำเดิม จนหนูหันหน้าหนี แล้วเดินออกไปแอบร้องไห้

เขาใช้น้ำเสียงดุดันหรือดุด่า?

มี่ : เริ่มไม่พอใจ ประมาณว่าก็พี่บอกว่าให้ไปนั่งดูแลลูกพี่ทำไมไม่ไป ทำไมไม่ฟังพี่ หลังเขากินยาแดงๆ นั้นค่ะ จนหนูไม่ไหวแล้ว ก็หันหน้าหนีเดินหนีไป แล้วแอบร้องไห้เลย เขาพูดอีกว่ามึงจะร้องทำเฮียอะไร จะร้องทำไม

ฟาง : เขาถามว่าน้องมึงนั่งร้องไห้เล่นโทรศัพท์ทำเฮียอะไร เริ่มโวยวาย แล้วบอกว่าไปหยิบปืน หยิบระเบิดมาดิ พูดกับเพื่อนๆ เขา ไปหยิบปืนยาวมาดิ ตอนนั้นเราใจหายเลย นั่งมองหน้ากันเลยว่าเอาไงๆ พวกเพื่อนๆ เขาก็บอกใจเย็นๆ นะไม่มีอะไร พวกพี่เอาปืนไปเก็บหมดแล้ว คราวนี้เขาเดินหายไปสักพักแล้วก็เดินกลับมา เอาลูกปืนมาวางเทขู่พวกหนู

มี่ : เขาไม่พอใจแล้ว เขาบอกว่าพี่จ้างน้องมา น้องมาทำอะไรกันตรงนี้ ทำไมไม่ทำงาน ทำไมไม่ชงเหล้า ทำไมไม่ดูแลลูกพี่ ไม่ดูแลเพื่อนพี่ ทำไมเอ็นเตอร์เทนกันไม่ดี ทำไมมานั่งกันเฉยๆ ทำเฮียอะไร

ฟาง : พวกเพื่อนๆ เขาก็พูดว่าน้องเขาดูแลดี อย่างโน้นอย่างนี้

เขาเอาลูกกระสุนมาวางหรือโปรย?

มี่ : วางแล้วก็เทเลยค่ะ ว่ามีกระสุนปืนนะ แต่ไม่มีปืน มีแต่ลูก มีลูกน้องเขาอยู่ข้างๆ ว่าปืนทุกกระบอกเอาไปเก็บให้แล้ว มี่ต้องกลัว

เหตุการณ์คืนนั้นจบยังไง?
มี่ : เขาเมามากจนฟุบหลับคาโต๊ะ จนเพื่อนเขาต้องหิ้วไปนอน

เราก็กลับกัน?
มี่ : หนูก็นั่งต่อค่ะ

ฟาง : พี่คนอื่นเขาต่อเวลาจนถึง 05.30 น. เลยค่ะ

เห็นว่าเขาเคยพูดถึงตร.ว่า?
มาย : ตร.ก็ยิงมาแล้วค่ะ ตอนพวกหนูนั่งอยู่ครบทุกคนเขาก็พูดค่ะ บอกว่าจ่ายล้านสองล้านก็จบแล้ว

ทำไมเขาถึงพูดขึ้นมา?
มาย : เหมือนเขาเมาแล้วพูดไปเรื่อยค่ะ ให้พวกหนูกลัว ช่วงนั้นเขาเริ่มโมโหแล้วก็เลยพูด

แค่เราไม่ได้ไปนั่งกับลูกชายเขาเท่านั้นเอง?
มาย : ค่ะ แค่นั้นเอง

วันที่ 27 เอกเมาหลับไป น้องๆ อยู่จนถึง 05.30 น. แยกย้ายกลับเหมือนทุกอย่างจบแล้ว วันรุ่งขึ้น 28 น้องๆ กลุ่มนี้ มาย, ฟาง และอีกคนนึง ไปรับงานเอ็นอีกงาน คนนั้นรู้จักคุณเอกมั้ย?
มาย : เป็นเพื่อนในงานวันเกิดคุณเอกค่ะ เขาดีลส่วนตัวให้มาที่นี่ เราก็ไปค่ะ

เป็นที่ไหน?
ฟาง : เป็นร้านขายอะไหล่รถ เหมือนเราไปเอ็นเตอร์เทนปกตินี่แหละค่ะ เพราะหนูถามแล้วถ้ามีคนชื่อเอกหนูไม่ไปนะ หนูไม่อยากปวดหัว เขาบอกว่าไม่มีแน่ เอ็นเตอร์เทนปกติ พอตีหนึ่งตีสอง อยู่ดีๆ คนชื่อเอกก็พุ่งเข้ามาเลย และชักปืนมาเลย แล้วเพื่อนเขาตบลงและแย่งปืนไปเลย

แบบนี้เรียกว่าจ่อมั้ย?
ธนกฤต : ถ้าปืนนั้นเป็นปืนจริง ก็เข้าข่ายเรื่องพยายามฆ่าได้เลย ต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นปืนอะไร

เขาบอกอยากคุยกับมี่-หมวย แต่สองคนนี้ไม่ได้ไป คุณตอบยังไง?
ฟาง : หนูบอกว่ามาไม่ได้ เขาบอกว่าถ้าเรียกมาไม่ได้เขาไม่ยอม ต้องให้สองคนนี้มารับผิดชอบ หนูก็บอกว่าเดี๋ยวหนูรับผิดชอบเอง เพราะหนูเป็นคนเรียกเด็กคนนี้ไป เขาบอกว่าถ้ามึงจะรับผิดชอบ มึงไปเอาปืนมา เดี๋ยวกูยิง จะยิงหนู ให้เพื่อนเขาไปเอาปืนมาจะยิงหนู

เขาพูดแบบนี้หมายถึงว่าเขาจะยิงมี่เหรอ?
มี่ : เขาไปตามมี่ตั้งแต่ที่ร้านแล้วค่ะ

พอเขาเอาปืนมาบอกว่าจะยิงทำยังไง?
ฟาง : หนูก็ยกมือไหว้ขอโทษ บอกว่าหนูผิดเอง ตอนนั้นมันทำอะไรไม่ได้ ก็ยกมือไหว้ขอโทษๆ หนูผิดเอง เขาบอกมึงไม่ต้องมาไหว้กู กูไม่ใช่พระ พวกเพื่อนเขาก็กันหนูออก และกล่อม จนเขากลับบ้านไป เขาบอกว่าให้ 7 คนในงานไปขอโทษเขาที่บ้าน หนูบอกว่าโอเค เดี๋ยวหนูจะติดต่อเด็กๆ ให้ พอกลับไปจากงานนี้ ประมาณ 05.3.0 น. เขาโทรหาหนูว่าไม่ต้องเข้ามาแล้วทั้ง 7 คน พี่เคลียร์แล้ว จะไม่เอาเรื่องแล้ว

เพื่อนเขาส่งข้อความมาบอก แล้วเป็นไงต่อ?
ฟาง : ก็คือกลับ เขาโทรมาคุยกับหนูว่าจบแล้ว ไม่ต้องเข้ามาแล้ว จากข้อความนี้ ก็คือไม่ต้องเข้ามาแล้ว คุยจบแล้ว พี่ของเขาขอไว้ เราก็คิดว่าจบค่ะวันที่ 28 แต่ปรากฏว่าไม่จบ เขาให้โมเดลลิ่งทักไลน์มาหาหนูว่าให้คืนเงินจำนวน 15,000 ในวันที่ 29 ค่ะ

เขาบอกว่าทำงานดีสองคน คือชมพู่กับฟองเบียร์ อีกห้าคนซ่อมให้เขาเลย เขาฝากบอกว่าไม่จ่ายไม่เป็นไร เจอตรงไหนตรงนั้น หนูก็บอกว่าเดี๋ยวโอนคืนให้เลย คนติดต่อหนูมาก็เครียดเหมือนกัน?
ฟาง : พอโอนเงินไปปุ๊บ เขาไม่จบ เขาส่งข้อความมาให้หนูว่าโลกมันกลม มึงกับกูเจอกันแน่ เขาบอกต้องโอนถึงจะจบ

น้องไปแจ้งความแล้ว เขาไปมอบตัวแล้ว เขาเอาปืนไปให้ตร.ด้วย ปรากฏว่าปืนนั้นเป็นบีบีกัน เขาบอกไม่ใช่ปืนจริงเลย หนูคิดว่าไง?
ฟาง : ปืนวันที่เอามาจ่อหนูไม่ใช่บีบีกันแน่นอน เพราะบีบีกันหนูก็เคยเล่น

มาย : ลูกกระสุนในภาพกับวันที่เอามาเท ก็คนละกล่องค่ะ

เรื่องไม่จบแค่นั้น เอกไปมอบตัว แต่ก่อนมอบตัว มีโมเดลลิ่งคนนึงติดต่อมาฝั่งน้อง และเล่าให้ฟังว่า?
ฟาง : ที่เขาบอกว่าจะนัดเราให้เข้าไปขอโทษ เหมือนเขาไปติดต่อโมเดลลิ่งคนนึงเพื่อมาติดต่อพวกหนูห้าคน เพื่อล่อให้เข้าไปโดนกระทืบค่ะ เรามีหลักฐานเป็นคลิปเสียง โมที่เข้าไปที่บ้านเขา ที่อยู่บ้านคนชื่อเอกค่ะ

โมเขามาแจ้งเราแบบนี้ เห็นบอกว่าเขาจะไปสาดอะไร?
มี่ : เขาไปตามหาหนูวันที่ 29 ที่ร้านแห่งหนึ่งที่หนูเคยทำงาน แต่หนูออกจากที่นั่นมานานแล้ว แต่เขาไปสืบยังไงไม่รู้ เขาไปตามหา เอารูปไปให้การ์ดที่ร้านดู แล้วถามว่าคนนี้อยู่มั้ย การ์ดก็น่าจะบอกว่าไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว เขาบอกว่าวันนี้ไม่เจอไม่เป็นไร เดี๋ยวกูจะมาทุกวัน จะมายิงสาดหน้าร้านเลยทุกวัน การ์ดเป็นพยานให้เราได้ค่ะ

เอกเอาปืนบีบีกันไปมอบตัว?
มาย : วันนั้นไม่ใช่กล่องนี้ ปืนก็ไม่ใช่ทรงนี้ด้วย ยืนยันด้วย

พี่ว่าไง?
ธนกฤต : เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลอยู่ในลิสต์ต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เขาทำจากที่น้องเล่าทั้งหมด ถ้าพูดถึงเราก็คงต้องตรวจสอบ แต่ต้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ตร. ทางกระทรวงยุติธรรมได้ประสานไปหมดแล้ว เขาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหลายทั้งปวง แต่ที่ฟังๆ มามีหลายประเด็นที่เป็นข้อกฎหมาย น้องๆ ต้องไปให้การเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ อาทิเช่นประเด็นที่บอกว่าให้เอาเงินคืน น้องถูกจ้างไปแล้ว การจ้างตรงนี้เป็นเรื่องการจ้างที่จบและมีค่าใช้จ่ายที่ได้รับไปแล้ว ต้องถือว่าจบ แต่กรณีขู่ให้โอนเงินกลับคืนไป ตรงนี้ต้องให้ตร.สอบดูสิว่าลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องกรรโชกทรัพย์ด้วยหรือไม่ นี่ก็เป็นหนึ่งประเด็น เดี๋ยวจะตรวจสอบ ไม่รู้มีเรื่องการปล่อยเงินกู้หรือเปล่า อาจต้องให้ดีเอสไอตรวจตรงนี้ เรื่องปราบผู้มีอิทธิพลเราทำแน่ เราอาจทำร่วมกันกับตร. แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่น่ารัก คือการทะเลาะกับผู้หญิงสังคมไทยเราไม่มีใครเขาทำแบบนั้น แล้วยิ่งทะเลาะไม่เลิก มันไม่ใช่วิสัยของผู้ชาย ต้องฝากว่าหยุดซะคุณเอก ถ้าคุณเอกไม่หยุดเดี๋ยวผมไม่หยุดด้วย แล้วกรณีงานเอ็นแต่มีเด็กนักเรียน ถ้าเป็นพ่อแม่ที่ดีไม่ควรทำพฤติกรรมหรือตัวอย่างอย่างนี้ให้เยาวชนเห็น เพราะมันแสดงถึงทำให้เด็กเข้าใจผิดได้

เขาบอกว่าเป็นขาใหญ่นะพี่?
ธนกฤต : ไม่เป็นไรหรอกครับ ขาใหญ่นี่ตร.เขามีทั่ว ไม่ต้องกังวล ใหญ่แค่ไหนสุดท้ายจบที่ราชทัณฑ์ทุกที่ ไม่มีปัญหาหรอก นั่นคือศูนย์รวมแห่งนักรบทั้งหลาย นักรบนอกเครื่องแบบด้วย ตอนนี้อย่างที่บอกช่วยราชการได้ เรือนจำยังมีที่ว่าง ถ้าอยู่ฝั่งธน ก็พิเศษธนบุรี แล้วอยากบอกว่าพ.ร.บ.ค่าทดแทนเดี๋ยวจะดูแลให้ สองเราใช้ชุดคุ้มครองพยานในการดูแลน้องๆ ให้สิทธิ์ดูแลและค่าใช้จ่ายทั้งหลาย พ.ร.บ.ตรงนี้กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการให้เรื่องสิทธิ์ทั้งหลาย เรื่องเงินชดเชยทั้งหลายก็มี น้องไม่ต้องกังวลว่าทำงานแล้วจะมีใครข่มขู่ มีพี่เลี้ยงเป็นชุดคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม พี่เอกไม่มีพี่เลี้ยงนะ เวทีนี้น้องๆ มีพี่เลี้ยง ถ้าพี่เอกไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว เจอกัน บอกไว้แค่นี้

พี่เริ่มดำเนินการยังไงบ้าง?
ธนกฤต : ผมรับเรื่องมาเมื่อสองวันที่ผ่านมา ตร.ล็อกเป้าแล้ว เรื่องการนำมาตรวจสอบ ผมจะให้ตรวจสอบเรื่องทะเบียนอาวุธปืนอีกทีว่าเขาเคยมีอาวุธปืนจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงจะเอามาให้น้องยืนยันอีกทีว่ากระบอกเดียวกันหรือไม่

น้องยืนยันว่าไม่ใช่บีบีกัน?
มาย : ไม่ใช่แน่นอน ยืนยันค่ะ

เขาเคยมีเรื่องราวแบบนี้เหมือนกัน?
มาย : ตร.บอกว่ามีค่ะ มีเรื่องคดีข่มขืนเหมือนกัน ตอนรู้ใจตกตาตุ่ม ไม่คิดเลยว่าต้องเจอคนแบบนั้น

ธนกฤต : ถ้าพูดคำว่าเคยยิงตร. ตร.สองแสนกว่านายนะ ตร.เขาก็มีปืน อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย มันท้าทายเจ้าหน้าที่ของรัฐเกินไป

หลังเหตุการณ์เขาติดต่อมาขอโทษขอโพยมั้ย?
ฟาง : มีโทรติดต่อมาทางหนูว่าว่างจะไปไกล่เกลี่ยมั้ย หรือจะยังไง เขาให้คนโทรมาถาม หนูบอกว่ายังไม่ทราบ ต้องคุยกับทางผู้ใหญ่ก่อน เขาบอกว่ายังไงก็ให้บอกนะว่าสะดวกมาเคลียร์มั้ย หรือจะยังไง แต่หนูบอกว่ายังไม่รู้ เขาคงหมายถึงเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดหรือจะเคลียร์กัน จะเอายังไง

แล้วใจเรายังไง?
มี่ : พวกหนูจริงๆ เลยอยากให้จบเรื่อง ไม่ต้องมาตามอะไรอีกแล้ว พวกหนูกลัวมาก ทำงานไม่ได้ ไม่กล้าไปไหน ทุกวันนี้ระแวงทุกอย่าง ไม่กล้าออกไปไหนเลย

ฟาง : แค่ได้ยินเสียงเหมือนเขาก็ผวาแล้ว เห็นคนใส่หมวกกันน็อกเข้ามาก็วิ่งหนีแล้ว

มาย : เขาพูดว่าถ้าใครแจ้งความ บ้านพวกมึงอยู่กันไม่ได้แน่

ธนกฤต : วันนี้คุณเอกไม่รู้จะอยู่บ้านได้หรือเปล่า ตร.ในพื้นที่ไม่ว่าสน.ตลิ่งชัน หรือสำราญราษฎร์ ก็ฝากท่านผู้บัญชาการไว้ด้วยแล้วกันว่าประชาชนเดือดร้อนไม่สบายใจ ต้องเด็ดขาด ตร.ยุคนี้ก็มั่นใจว่าเด็ดขาด เดี๋ยวจบรายการนี้ไปจะย้ำ จะไปไหนก็แจ้งยุติธรรมจังหวัดที่ไปพบน้อง ส่งไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวให้น้องทำคำร้องตรงมาที่ผมหรือรัฐมนตรียุติธรรม เดี๋ยวให้ดีเอสไอไปดูเรื่องพวกผู้มีอิทธิพล ปล่อยเงินกู้ ให้ค้นให้หมดเลย ถ้าไม่จบและไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเจอกัน

น้องอยากฝากอะไรบอกคุณเอก?
ฟาง : แค่หน้าก็ยังไม่อยากเจอ ไม่อยากมอง กลัวไปหมด

ติดต่อไปครั้งแรกติดต่อได้ ไม่รับโทรศัพท์ ครั้งที่สองปิดเครื่องเลย ถ้าคุณเอกอยากคุยมาเลย?
ธนกฤต : อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องนี้แค่เรื่องเล็กๆ แต่บานปลายได้